
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลจะให้เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียง 1 วัน ว่า ถ้ารัฐบาลทำเช่นนั้น จะแสดงให้เห็นถึง “ความกลัว” และความพยายาม “หนีการตรวจสอบ” ของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ไม่เป็นผลดีต่อตัวนายกฯ อุ๊งอิ๊งเอง ถ้านายกฯ มั่นใจว่า ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน และทำการเมืองสุจริต อย่ากลัวการอภิปราย และถ้านายกฯ ตอบข้อซักถามได้ดี กลับจะทำให้รัฐบาลได้มีโอกาสแสดงผลงาน เป็นผลดีต่อนายกฯและรัฐบาลเอง
ทัั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ไม่ใช่เกมการเมืองในสภา จะไม่มีการใส่ร้ายป้ายสีในสิ่งที่เป็นเท็จ แต่จะตรวจสอบจากข้อมูลข้อเท็จจริงที่ปรากฏใน 3 กรอบคือ
1.ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ผิดพลาด ทำให้เศรษฐกิจทรุดตัว ประชาชนหมดความหวัง และไม่มีอนาคต
2.การทุจริตที่เกิดขึ้นจริง โดยฝ่ายค้านมีข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เข้าข่ายทุจริตของผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกฯ
3.“การทุจริตเชิงนโยบาย” ซึ่งหลายนโยบายที่อ้างว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่มีนัยยะซ่อนเร้นผลประโยชน์ส่วนตัวมหาศาลและสร้างความเสียหายระยะยาวต่อประเทศ
“การอภิปรายครั้งนี้เป็นแค่พิธีกรรมทางการเมือง แต่เราต้องนำข้อมูลข้อเท็จจริงมาตรวจสอบการทุจริตทั้งในเชิงงบประมาณ เชิงอำนาจ และการทุจริตเชิงนโยบายจริงหรือไม่ และที่สำคัญ รัฐบาลจะตอบประชาชนได้หรือไม่ว่า นายกฯ อุ๋งอิ้งกำลังจะนำพาประเทศเดินไปทิศทางไหน อนาคตของประเทศเป็นอย่างไร ทำไมเศรษฐกิจถึงย่ำแย่ลงทุกวัน ทำไมคอรัปชันจึงสูงต่อเนื่อง นายกฯ จึงควรจะตอบคำถามเหล่านี้ให้ชัดเจน”คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องเรื่องเวลาการอภิปราย ฝ่ายค้านขอไว้ 5 วัน แต่หากรัฐบาลต้องการลดเวลาลง อาจถูกมองว่าพยายาม “หนีการตรวจสอบ” ดังนั้น ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ควรเปิดพื้นที่ให้มีการอภิปรายอย่างเต็มที่ ประชาธิปไตยต้องโปร่งใส การเมืองต้องสุจริต นายกฯ จึงต้องพร้อมตอบทุกข้อกล่าวหา ผลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่ได้วัดแค่เสียงโหวตในสภา แต่ “ศรัทธาของประชาชน” สำคัญกว่า จะเป็นการตัดสินของประชาชนทั่วประเทศ ว่ารัฐบาลชุดนี้ยังควรได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไปหรือไม่