สุดยอดซอฟต์พาวเวอร์ผ้าขาวม้าขิดลาย 11 สี ของหมู่บ้านแห่นาคโหด ชัยภูมิ

ใครเดินทางผ่านมาถึงบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านโนนเสลา หมู่ที่ 6 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ จะพบเห็นรูปปั้น สัญลักษณ์ประเพณีแห่นาคโหด ถือว่าเป็นประเพณีโบราณที่มีหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้ ที่ต.หนองตูมจะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน 6 ของทุกปี ประเพณีแห่นาคโหดชาวบ้านที่นี่ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมายาวนาน จะใช้คนหนุ่มหามแคร่ไม้ไผ่แห่นาคไปรอบหมู่บ้านระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร พร้อมทั้งเขย่า-โยนนาคอย่างรุนแรงเพื่อความสนุกสนาน เป็นความเชื่อทดสอบความตั้งใจของผู้ที่จะบวชว่ามีความมุ่งมั่นที่จะบวชหรือไม่

นาคต้องห้ามตกลงมาจากคานหามแคร่ไม้ไผ่ หากตกลงมาถูกพื้นดินจะถือว่าขาดคุณสมบัติไม่ให้บวช ถือว่าเป็นการแสดงความอดทนกตัญญูทดแทนคุณบิดามารดาที่พากันดูแลบุตรที่กำลัเกิดมาเลี้ยงจนเติบใหญ่ จนกระทั่งผ่านพิธีแห่นาคโหดได้แสดงว่าได้ผ่าฟันปัญหาอุปศักดิ์มาได้จนผ่านเข้าพิธีเข้าไปบวชได้

นอกจากที่บ้านโนนเสลา มีประเพณีแห่นาคโหดหนึ่งเดียวในโลกแล้ว ยังเป็นแหล่งทำการทอผ้าขิดขึ้นชื่อของ จ.ชัยภูมิ เป็นแหล่งทอผ้าขิดที่ใหญ่ที่สุดขอ อ.ภูเขียว อ.ภูเขียวมี 11 ตำบล บ้านโนนเสลา ต.หนองตูม ชาวบ้านรวมกลุ่มต่อยอดทอผ้าขาวม้าขิด 11 สี นำมาตัดเป็นทั้งเสื้อหลายรูปแบบ กระเป๋า และอื่น ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วยลวดลายที่สวยงามมีเอกลักษณ์ประจำถิ่นจนกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของชาว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ สร้างรายได้ให้กับสมาชิกในกลุ่มมีรายได้คนละกว่า 10,000-30,000 บาทต่อเดือน

ชาวบ้านโนนเสลา ได้สืบทอดการทอผ้าขิดมาแต่รุ่นปู่ย่าตายายจากทอผ้าใช้กันเอง เริ่มมีการรวมกลุ่มสืบสานอนุรักษ์การทอผ้าขิดบ้านโนนเสลา มาตั้งแต่ปี 2521 จนกลายเป็นของล้ำค่าประจำจังหวัด ขึ้นชื่อระดับประเทศโด่งดังไปถึงระดับโลก การทอผ้าที่นี่มีหลากหลายรูปแบบทั้งผ้าฝ้ายมัดหมี่ ผ้าขิดไหม ผ้าคลุมไหล่ ผ้าปูโต๊ะ

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เพิ่มเติมที่ต่อยอดมาจากการทอผ้าขิดอีกด้วย เช่น กระเป๋าผ้า หมอนขิด เสื้อทั้งของสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ กล่องใส่กระดาษชำระ และอื่น ๆ คุณภาพที่ได้จากความตั้งใจในการถักทอของชาวบ้านที่นี่ ลูกค้าที่นำไปใช้แล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มเกินราคาเลยทีเดียว เพราะสินค้าที่นี่มีเอกลักษณ์หาดูได้ยาก การทอผ้าจะใช้ “กี่” ที่ทำมาจากไม้ตามแบบโบราณที่ยังคงอนุรักษ์อยู่

ในช่วงนี้ จะพบเห็นชาวบ้านโนนเสลา ทั้งรุ่นหนุ่มสาว จนไปถึงรุ่นผู้สูงอายุ ทอผ้าขาวม้า 11 สี ที่ได้ส่งเสริมจากนายอำเภอภูเขียว มีหลายรูปแบบทั้งนำไปตัดเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลายรูปแบบ ทั้งเสื้อพระราชทาน เสื้อเชิด เสื้อกั๊ก ผ้าพันคอ กระเป๋า ย่าม ร่มกันแดด 11 สี และอื่นๆ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ กลายเป็น Soft Power (ซอฟต์พาวเวอร์) ของ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ขายเพียงผื่นละร้อยกว่าบาท การทอลายขิดโบราณใส่ลงบนผืนผ้าขาวม้า 11 สี หมายถึง 11 ตำบล ของชาว อ.ภูเขียวนั่นเอง

กลุ่มทอผ้าขิดของ นางอุดร ขึมภูเขียว อายุ 52 ปี ประธานกลุ่มท่อผ้าบ้านโนนเสลา ม.12 ต.หนองตูม มีสมาชิกในกลุ่มกว่า 15 คน ทอผ้าขาวม้า 12 คน ทอผ้าคุมไหล่ 3 คน อีกทั้งยังมีเด็กเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียน มาฝึกทั้งออกแบบลายผ้า แกะลายผ้า ฝึกท่อผ้าสืบทอดให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้จากรุ่นสู่รุ่น

นางอุดร ขึมภูเขียว เล่าว่า เมื่อก่อนผ้าขาวม้าที่ทอกันมีราคายังไม่สูงผืนละ 150 บาท ทอลายเดิม ๆ รายได้แทบไม่พอกับรายจ่าย แต่เวลานี้ได้นำเอาเทคนิคสี 11 สี เข้ามาใส่ในลายผ้าขาวม้าสีสันสะดุดตา จนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในราคาผืนละ 300 บาท ถ้ามีลายขิดด้วยเพิ่มเข้าไปได้อีกราคาถึงผืนละ 350-450 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่าย ผ้าขาวม้าแต่ละผืน จะนำไปตัดเป็นเสื้อหรือกระโปรงได้ 1 ชิ้นงาน เป็นที่นิยมของร้านตัดเสื้อผ้าในจังหวังชัยภูมิ

นำไปตัดเป็นสูท ชุดไทย กระเป๋า เครื่องใช้ต่าง ๆ อย่าแพร่หลาย จนปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มแต่ละคน จะทอผ้าสายรุ้งจำน่ายได้วันละ 1-2 ผืน ได้ค่าแรงทอผ้าขาวม้า 11 สี หรือผ้าขาวม้าสีรุ่งผืนละ 150 บาท ถ้ามีลายขิดด้วยก็จะได้ค่าแรงผืนละ 300 บาทต่อวันถ้าขยันหน่อยก็ได้ 2 ผืน 600 บาท ถือเป็นอาชีพเสริมหลักจากการทำไร่ ทำนา จนขณะนี้มีออเดอร์สั่งยกม้วนความยาวกว่า 40 เมตรขึ้นไป สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก แทบผลิตออกไม่ทันสู่ท้องตลาด

ใครสนใจติดต่อได้ที่กลุ่มภูขิตา โทร.066-1213998 เพจภูขิตา กลุ่มทอผ้าขิดโบราณ โทร.095-7920355 เฟซบุ๊ก จักรกฤษย์ ขวัญสำราญ กลุ่มย้อมสีธรรมชาติ โทร.081-0905215 เฟซบุ๊ก สุขุม

นายสนอง มะลัยขวัญ นายอำเภอภูเขียว บอกว่า อ.ภูเขียว ประกอบด้วย 11 ตำบล จึงมีแนวคิดนำชาวบ้านทั้ง 11 ตำบล ที่ทำอาชีพทอผ้าอยู่แล้วมาต่อยอดนำเอกลักษณ์ของแต่ท้องถิ่นถักทอให้เป็นผ้าขิด มีเอกลักษณ์โดดเด่นสวยงามสู่สากลเป็นของฝากแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเพณีแห่นาคโหด แห่นาคโบราณ ประเพณีบุญกระธูป เป็นการช่วยยกระดับคุณค่าความงดงามของผ้าขาวม้า 11 สี ของชาวบ้านสร้างรายได้ 300 -600 บาทต่อคนต่อวัน ขึ้นอยู่กับความชำนาญและความขยันของแต่ละคน

ข่าว/ภาพ : มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ

Message us