
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ บก.ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำ นายเอกลักษณ์ วารีชล หรือ ดร.เอก หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ว่า เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธและไม่ยอมให้ข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ยอมรับว่า ในการจับกุมช่วงแรกซึ่งมีการสอบปากคำอย่างไม่เป็นทางการเจ้าตัวได้ให้ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์และมีความสำคัญต่อคดีเป็นอย่างมากแต่เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการสืบสวนสอบสวนจริงกลับปฏิเสธให้ข้อมูล แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หนักใจ มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าสามารถเอาผิดได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า นายเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่มีข้อมูลและความรู้ เป็นไปได้ว่าเจ้าตัวอาจจะอยู่ในคณะกรรมการหรือคณะกรรมาธิการต่างๆ ประกอบกับใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในรัฐสภาทำให้สามารถล้วงข้อมูล หรือรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตหรือการใช้ข้อมูลงบประมาณของกระทรวงทบวงกรมต่างๆ สามารถนำมาใช้ในการปราบปรามการทุจริตต่อเนื่องในคดีอื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการส่งต่อหรือให้ข้อมูลกับนักแฉคนอื่นๆ บ้างแล้ว สำหรับพฤติการณ์การก่อเหตุของดร.เอก จะทำตัวเหมือนมนุษย์ล่องหน อยู่เบื้องหลังไม่ค่อยปรากฎตัว แต่ในความจริงแล้วเขาคือคนสำคัญของขบวนการ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงแนวทางคดีหลังจากนี้ คาดว่า จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม อีก 2-3 คน ภายในสัปดาห์หน้า ขอเวลาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดให้แน่ชัดก่อนอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนกรณีภรรยาของนายศรีสุวรรณ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า มีส่วนร่วมหรือตั้งใจในการกระทำความผิดหรือไม่ ยอมรับว่ามีพยานหลักฐานอยู่พอสมควรแต่อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะดำเนินการในฐานะผู้ต้องหาหรือพยานต้องรอการตัดสินใจในวันอังคารหน้า
สำหรับ กลุ่มผู้เสียหายรายอื่นๆ ยอมรับว่ามีการประสานข้อมูลร้องเรียนมาหลายราย แต่จะดำเนินการกับคดีนี้ให้เสร็จสิ้นภายในอังคารหน้า จากนั้นจึงจะเริ่มทำคดีใหม่ต่อในทันที ส่วนกรณีที่นายเจ๋ง ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเมื่อวานที่ผ่านมา ยอมรับว่า การออกมาพูดลักษณะดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะเป็นการยอมรับในข้อเท็จจริง
ด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายเอกลักษณ์ นานร่วม 7 ชั่วโมง เจ้าตัวได้ยื่นหลักทรัพย์เงินสด 4 แสนบาท ขอประกันตัว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า เจ้าตัวไม่มีพฤติกรรมหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจึงอนุญาตให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว