เมเมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 27 มีนาคม นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านวังกะ หมู่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ว่า เกิดเหตุมีควันไฟลุกไหม้บนตอม่อสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ฝั่งชุมชนบ้านวังกะ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสังขละบุรี จึงได้ประสาน นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่าชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่พบเหตุการณ์ได้ช่วยกันนำน้ำมาดับไฟได้แล้ว
จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเยาวชนหญิงคนหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองและเพื่อนอีก 2 คน อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านวังกะ พากันเดินลงมาเที่ยวบนสะพานฯ ได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้ และสังเกตเห็นว่ามีควันลอยขึ้นมาจากด้านล่างของพื้นสะพาน จุดที่เกิดควันไฟตอนแรกที่ตนเดินผ่านมาพบเด็กวัยรุ่นชายนั่งรวมตัวกันอยู่ 3 คน แต่ในช่วงที่เกิดมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาไม่พบวัยรุ่นทั้ง 3 คนอยู่ในจุดเกิดเหตุแล้ว เมื่อเห็นเหตุการณ์ตนและเพื่อนๆ จึงช่วยกันตะโกนให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างนำน้ำขึ้นมาดับไฟ ด้วยการกรอกน้ำใส่ขวดแล้วโยนขึ้นมาให้ เพื่อนำไปดับควันไฟที่ลุกไหม้ตอม่อสะพาน ขณะที่ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือบางคนก็ช่วยนำน้ำใส่ภาชนะวิ่งขึ้นมาบนสะพานแล้วช่วยดับไฟอีกทาง จนสามารถดับไฟที่ลุกไหม้ได้ในที่สุด
ด้าน น.ส.พรเจริญ ปุณณะการี 1 ในชาวบ้านที่นำน้ำมาช่วยดับสะพานเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 1-2 ครั้ง และทุกครั้งชาวบ้านก็สามารถช่วยกันดับไฟได้ เนื่องจากมีผู้พบเห็นเหตุการณ์แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านให้ทราบ ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ดึกมากนักและยังมีคนมาเดินเที่ยวบนสะพาน แต่หากเกิดเหตุในช่วงเวลาที่ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์จะเกิดอะไรขึ้น เพราะสะพานสร้างด้วยไม้ทั้งหมด จะทำให้ไฟสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุของไฟที่ไหม้ในครั้งนี้และทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนเกิดจากก้นบุหรี่ที่มีการสูบแล้วทิ้งลงบนสะพาน ทั้งๆ ที่บริเวณหัวสะพานทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ และฝั่งชุมชนบ้านวังกะ มีการติดป้ายประกาศอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับอย่างจริงจังเสียที เพื่อจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
สำหรับ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสังขละบุรี เนื่องจากเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่สร้างจากดำริของพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม หากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ย่อมจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของอำเภอสังขละบุรี ที่ปัจจุบันเป็นเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี
ข่าว/ภาพ : ปิยรัชต์ จงเจริญ ผู้สื่อข่าวกาญจนบุรี
