
บรรยากาศท่องเที่ยวใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีเช้าวันนี้ (15 ต.ค.)คึกคักเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 2,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรวิถีมอญ ในชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ ชุมชนท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรี โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกสวมใส่ชุดพื้นเมือง ทั้งชุดมอญ พม่า กะเหรี่ยง ที่จำหน่ายชุดใสบาตรมีไว้ให้บริการในราคาชุดละ 99 บาท เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ขณะบรรยากาศร้านค้าจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกต่างๆ มียอดการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับร้านอาหารชื่อดังของที่นี่ ทั้งร้านป้าหยิน ร้านโจ๊กนั่งยอง ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากสื่อโซเชียล นักท่องเที่ยวมากินอาหารแน่นร้านจนถึงกับต้องเข้าคิวยาวออกมาบนถนน ขณะที่ผู้ประกอบการอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยทำการส่งเสริมการท่องเที่ยวเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) แล้ว หลังจากช่วงที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสภาพภูมิอากาศส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวซบเซา

ส่วนบนสะพานมอญเช้านี้ที่นักท่องเที่ยวพากันมาเดินชมบรรยากาศยามเช้าบนสะพาน ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย เนื่องจากสังขละบุรีเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว พร้อมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะถ่ายรูปคู่กับมัคคุเทศก์น้อย ที่กลับมาให้บริการถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง เพื่อรับฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในอดีตเด็กๆ เหล่านี้เป็นสีสันของการมาเที่ยวสังขละบุรี และกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองเล็กๆ แห่งนี้


ขณะที่อำเภอสังขละบุรีโดย นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี ได้เตรียมรับมือฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง โดยได้สั่งการให้ นายดำรงรัตน์ สุภาพัฒน์ นายนภัทร พร้อมมูล และ นายภาณุพงษ์ นพรัตน์ ปลัดอำเภอสังขละบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่พัก บริเวณสะพานมอญ และนักท่องเที่ยว เพื่อรับฟังข้อมูล และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงทางกายภาพของสะพาน

นายดำรรัตน์ สุภาพัฒน์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของอำเภอสังขละบุรี (พ.ย.-เม.ย.) ที่กำลังจะมาถึงคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวชมสะพานมอญ เพื่อความปลอดภัยเบื้องต้นอำเภอสังขละบุรีจะได้ประสานเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบสะพานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอำเภอสังขละบุรี และคณะกรรมการวัดวังก์วิเวการาม


ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าชิ้นส่วนของสะพานเริ่มมีการชำรุดตามกาลเวลา เช่น ไม้พื้นสะพาน ไม้แกงแนงที่ยึดสะพาน น็อตและตะปู ที่ใช้ในการยึดส่วนต่างๆ ของสะพาน รวมทั้งเสาบางต้น เนื่องจากสะพานเป็นสิ่งก่อสร้างกลางแจ้งที่ผ่านการกัดกร่อนทั้งน้ำฝนและแสงแดด ทำให้มีการชำรุดเสียหายตามระยะเวลา ทั้งนี้เมื่อพบว่าส่วนให้ต้องทำการซ่อมแซม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการวัดจะได้มีข้อมูลและเร่งดำเนินการซ่อมแซมต่อไปโดยเร็ว เพื่อความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด

สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 445 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย ที่ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี สะพานนี้สร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี

ในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2556 เวลา 18.30 น. สะพานอุตตมานุสรณ์ได้พังทลายขาดเป็น 2 ท่อนในช่วงกลางสะพาน ความยาวประมาณ 30 เมตร เนื่องจากเกิดเหตุฝนตกหนักติดต่อกันนานถึง 3 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากจากทุ่งใหญ่นเรศวร พัดขยะตอไม้ลงสู่แม่น้ำซองกาเลีย ปะทะกับเสาสะพานทำให้เกิดขาดกลาง และเสียหายเพิ่มเป็น 70 เมตร ในเที่ยงของวันต่อมา


สะพานอุตตมานุสรณ์ก็ได้รับการซ่อมแซม จากทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ใช้เวลาเพียงแค่ 29 วัน และมีพิธีเปิดใช้อีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นวันครบรอบชาตกาล 104 ปี ของหลวงพ่ออุตตมะ โดยมีการแสดงแสงสีเสียง
ข่าว/ภาพ : ปิยรัชต์ จงเจริญ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี


