
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ที่ถูกมติพรรคขับออกเนื่องจากมีประเด็นการละเมิดทางเพศทีมงานสาว เปิดแถลงพร้อมเปิดเผยภาพและคลิปเสียงบุคคลที่อ้างว่า เป็น ผู้ช่วยสส.พรรคก้าวไกล ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอักษรย่อ “ส.” มีประเด็นเรียกรับผลประโยชน์จากการขายที่ให้กับบริษัทย่อยขยะใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เป็นมูลเหตุจูงใจที่ทำให้มติพรรคก้าวไกลขับตนออกจากพรรค ในกรณีที่ผลสอบกรรมการวินัย ชี้ว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง เนื่องจากแชทลับกับ ทีมงานสาว ที่เข้าข่ายละเมิดและคุกคามทางเพศ
นายวุฒิพงศ์ แถลงว่า ในประเด็นการเรียกรับผลประโยชน์ในพื้นที่จ.ปราจีน เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและบ่อขยะนั้น ตนได้ยื่นเรื่องให้กรรมการบริหารพรรคชุดที่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคให้พิจารณาและตรวจสอบ เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่พบว่า พรรคได้ดำเนินการตรวจสอบ ตนไม่แน่ใจว่าต้องรอให้เป็นกระแสก่อนถึงดำเนินการหรือไม่ อย่างไรก็ดีในประเด็นดังกล่าวตนเชื่อว่า เป็นมูลเหตุจูงใจที่ทำให้ “ผู้ช่วย ส.” คนดังกล่าวยื่นเรื่องให้พรรคตรวจสอบตนกรณีละเมิดทางเพศ โดยพา “สาว ป.” มาที่พรรคเพื่อยื่นเรื่อง ซึ่งกระบวนการตรวจสอบตนเกิดขึ้นรวม 22 วัน ขณะที่เรื่องทุจริตที่เกิดขึ้น ผ่านเวลา 4 เดือนแล้ว พรรคกลับไม่ดำเนินการใด ๆ จึงขอเรียกร้องให้ดำเนินการ เพราะเรื่องทุจริตเป็นเรื่องที่ไม่ควรยอมรับ หรือ เก็บไว้ใต้พรม

นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า กรณี “ผู้ช่วย ส.” ที่ตนตรวจสอบพบ คือ ประเด็นการเรียกรับผลประโยชน์ และความพยายามให้บริษัท บ่อขยะ ซื้อที่ดินของตนเอง จำนวน 5 ไร่ มูลค่า 3.5 ล้านบาท โดยพบว่า เป็นการแบ่งขายที่ดินของตนเอง แปลงละ 1.7 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินและทำให้เสียภาษีถูกลง ตนมีหลักฐานและรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ขาดเพียงสลิปการโอนเงินเท่านั้น ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ช่วย ส. ยังมีความสัมพันธ์ กับ “ทีมงาน ป.” คนในพื้นที่ เทศบาลกรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ด้วย
“เรื่องนี้ผมไม่ต้องการโจมตีพรรค หรือให้ข่าวเพื่อเคลียร์ตัวเองก่อนเข้าสังกัดพรรคการเมืองใด แต่ต้องการสื่อสารไปยังพรรคให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย หากจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเชิงรุก รวมถึงเหตุผลสำคัญเพราะหลังจากมติพรรคก้าวไกลขับให้ผมออกจากพรรค มีแกนนำระดับผู้ใหญ่ในพรรคบอกให้หยุดพูด ซึ่งผมพร้อมปฏิบัติ แต่เมื่อ 2 วันก่อนคนที่เป็นชนวนเหตุไม่หยุด และยังมีการพาดพิงผม แม้ขณะนี้เขาจะบวชเป็นพระแล้วก็ตาม” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ช่วย สส. ก้าวไกลที่มีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค มีอิทธิพลเหนือคนในพรรคได้อย่างไร นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ไม่ขอลงรายละเอียด แต่ตนคงทำเรื่องที่เหยียบเท้าใครและชนกับพวกลุ่มทุนในพื้นที่ปราจีนบุรีด้วย ตนทราบว่าก่อนวันที่ประชุมสส.พรรคมีมติ พบการส่งข้อความสั้นเพื่อขอให้ช่วยลงมติ กรณีดังกล่าวตนมองว่าไม่ควรทำเป็นศาลเตี้ย อีกทั้ง สส. 150 คนของพรรค บางคนยังไม่เคยคุยกับตนด้วย และวันที่จะลงมติไม่เคยเรียกตนไปชี้แจง แต่เป็นการตัดสินของกรรมการวินัยของพรรคเท่านั้น สำหรับสส.ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้เป็นบุคคลที่ขับเคลื่อนภารกิจภาคตะวันออก
เมื่อถามว่า กรณีที่ระบุว่า ผู้ช่วย สส. หรือ สส. เกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์เข้าข่ายผิดจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะดำเนินการให้องค์กอิสระหรือสภาฯตรวจสอบหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนทราบว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวสามารถยื่นให้ กกต. ตรวจสอบได้ อีกทั้งในประเด็นที่เป็นเรื่องการเมืองในแง่จริยธรรม ตามกระบวนการของคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังช่องที่จะส่งถึงศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ขณะนี้ตนยังไม่คิดจะดำเนินการรวมถึงการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาฯด้วย แต่ต้องการให้พรรคดำเนินการ ส่วนประเด็นที่ตนถูกชี้ว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศนั้น ตนตั้งทนายแล้ว

“ผมยืนยันว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผย ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลกลับมติ หรือให้องค์กรใดสั่งให้พรรครับผมเข้าสังกัดพรรคอีก ผมคิดว่าต้องออกมา แบบไม่หันหลังกลับไป และการเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะผมถูกตีไม่เลิก ถูกพาดพิงไม่หยุด ไม่ใช่เพราะต้องการโจมตีพรรค” นายวุฒิพงศ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองร้องต่อ ป.ป.ช.ให้สอบจริยธรรมร้ายแรง นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่าตนยินดีเข้าสู่กระบวนการ เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ตัดสินใจเข้าสังกัดพรรคการเมืองใดแล้วหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนยังมีเวลาและยังไม่ได้ตัดสินใจ เนื่องจากต้องสอบถามประชาชนในพื้นที่และ ทีมทำงานในพื้นที่ของตน ที่มี 10 ชีวิตด้วย เพราะพวกเขาต้องตามตนไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ โดยตนยอมรับว่า ได้พูดคุยกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เพราะเป็นศิษย์สถาบันเดียวกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ เพราะยังมีเวลาถึง 30 พ.ย.
