เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่รัฐสภา นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย สส.ของพรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับก้าวไกลที่ตนเองได้ยื่น และที่ประชุมสภาฯมีมติไม่รับหลักการในวาระแรก ว่า ในฐานะเป็นผู้ใช้แรงงานมา 30 ปี และในฐานะที่เป็นผู้เสนอร่างฉบับนี้ จึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากกฎหมายนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานในประเทศนี้ให้ดีขึ้นและสามารถลืมตาอ้าปากได้ในหลักการทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต และยังขยายความคุ้มครองและรูปแบบการจ้างงาน รวมถึงไรเดอร์ ฟรีแลนซ์ และแรงงานอิสระ กลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงรู้สึกเสียดายที่ประเทศของเราเสียโอกาส และรู้สึกผิดหวังที่บรรดาผู้แทนของประชาชนทั้งหลายที่มองข้ามการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนทำงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและให้ความสำคัญ แต่พยายามช่วยบรรดาเหล่านายทุน เจ้าของกิจการที่ได้รับผลกระทบ จากร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานด้วยการคว่ำร่างกฎหมายคิดในวาระแรก
นายเซีย กล่าวว่า การคว่ำร่างกฎหมายนี้อาจ เพราะขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการทำลายชื่อเสียงความเชื่อมั่นของชนชั้นแรงงานของพรรคก้าวไกล โดยไม่สนใจว่าเนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตแรงงานอย่างไร ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้แตะต้องกองทัพ สถาบัน หรือฝั่งอำนาจนิยม แต่การแลกเปลี่ยนในสังคมออนไลน์ และเท่าที่เราเห็นฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลจำนวนมากที่ทำหน้าที่บริหารก็ยังเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่อาจจะดูเล็กน้อย แต่สำหรับคนทำงานกว่าขึ้นค่อนประเทศเป็นเรื่องใหญ่หลวง ที่จะพลาดโอกาสที่ดี จากกฎหมายฉบับนี้
“ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย ก็เพื่อรับใช้ชนชั้นนั้น แม้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับนี้จะไม่ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 ผมก็จะผลักดันกฎหมายที่เปลี่ยนชีวิตคนทำงานเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรต่อไปอย่างไรฉบับ ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พระราชบัญญัติประกันสังคมที่จะช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรองและดูแลการทำงานคนในประเทศนี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่า” นายเซีย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ร่างกฎหมายของตนไม่ผ่านในวาระรับประการแต่ ยังมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานอีกฉบับที่เสนอโดยนางสาวรรณวิภา ไม้สน สส. ของพรรคก้าวไกลมีมติรับหลักการในวาระแรก และผ่านเข้าไปในชั้นกรรมาธิการ ที่มีความแตกต่างกัน ที่เกี่ยวกับการลาคลอด 180 วัน และการคุ้มครองลูกจ้างของรัฐ จึงหวังว่าในชั้นกรรมาธิการจะมีการพูดคุยในรายละเอียดและผลักดันให้ แรงงานมีสิทธิ์ลาคลอดได้ 180 วัน
เมื่อถามว่า ร่างพรบคุ้มครองแรงงานของนายเซีย ฝ่ายรัฐบาลมองว่า สุดโต่งเกินไปจะทำให้ระบบ SME ล้ม นายเซีย กล่าวว่าเรามีมาตรการที่ดูแลพี่น้อง SME อยู่หลายเรื่อง
นายเซีย ยังกล่าวด้วยว่า สส.ที่ไม่รับร่างกฎหมายของตน อาจจะเห็นปัญหาของพี่น้องแรงงานไกลตัวพวกเขา เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านกระบวนการหรือไม่ใช่ลูกชาวบ้าน หลานคนธรรมดาอย่างพวกเราพรรคก้าวไกล พวกเราส่วนใหญ่เป็นคนทำงานเราเข้าใจปัญหาพี่น้องแรงงานอย่างดีมาตลอดว่าที่ผ่านมาไม่สามารถที่จะลืมตาอ้าปากได้ด้วยเงื่อนไขของกฎหมายที่วางกรอบกำหนดไม่ให้มีโอกาสเข้าถึงสิทธิ์ด้านต่างๆ เช่น กันปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่เป็นไปได้ยากมาก หากฝ่ายการเมืองไม่เห็นด้วย เป็นต้น
