
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาญัตติของสว.ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายว่า ขณะนี้โรงพยาบาลในชนบทจำนวนคนไข้ล้นโรงพยาบาล ส่วนหนึ่งมาจากประชาชนมีปัญหาด้านจิตใจและปัญหาสุขภาพ ต้องเข้าโรงพยาบาลรับการรักษา อีกส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาภัยแล้งส่งผลกระทบให้ราคารข้าวตกต่ำ ตนจึงมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนก่อนจะล้มป่วยกันทั้งประเทศ
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาเราประสบปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลเคยมีการรวบรวมข้อมูลเกษตรกรที่เดือดร้อนส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เพื่อจ่ายเงินชดเชย แต่มาจนถึงขณะนี้เงินชดเชยยังยังไม่ถึงมือประชาชน จึงขอแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีว่าอย่าไปดูที่อื่นให้ดูปัญหาบ้านเราก่อน เพราะผู้ประสบภัยน้ำท่วม กำลังรอเงิน น้ำท่วมหายไปไม่นานปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นอีกแล้ว ต้องตั้งงบช่วยแก้ปัญหาไปแล้งอีก อยากถามว่าจะเอางบจากที่ไหน
นพ.เปรมศักดิ์ อภิปรายว่า งบประมาณปี 2568 ที่วุฒิสภาพิจารณาไป มีเงินช่วยเหลือภัยพิบัติซึ่งเป็นงบกลาง ตั้งงบไว้ 805,745 ล้านบาท ในงบประมาณ 3 ล้านล้าน มีงบช่วยภัยพิบัติ 805,745 แสนล้านจริงหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะงบส่วนใหญ่ตั้งไว้เพื่อจ่ายเป็นเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญข้าราชการถึง 354,500 ล้านบาท แต่งบค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินมีเพียง 4,000 ล้าน ใน 805,745 ล้านบาท มีการนำเงินไปใช้ดิจิตอลวอลเล็ตเป็นส่วนใหญ่ แล้วเกษตรกรจะอยู่ได้อย่างไร”นพ.เปรมศักดิ์กล่าว
” ปัญหาภัยแล้ง ถ้าเป็นแล้งลอลิงปัญหาก็หนักหนา แต่ถ้าเป็นแร้งรอเรือ แรงที่รุมกินงบประมาณ ผมอยากรู้เรื่องนี้เหมือนกันว่าเป็นใคร อยากให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องไปดูหน่อยว่าแร้งตัวไหน ลากไส้ลากพุงประชาชนมากินจนยากจนทั้งประเทศ ประชาชนจะได้รู้เสียทีว่าจะ แก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ผมจึงขอเชิญคำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีว่า อย่าได้ทอดทิ้งชาวนาเลย ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน”นพ.เปรมศักดิ์