เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ประชุมวุฒิสภาซึ่งมี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถาม รมว.สาธารณสุข เรื่อง มาตรการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยนพ.นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ตั้งถามว่า อาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. มีความสำคัญมากในการทำงานช่วยเหลือกระทรวงสาธารณสุขและอยู่ใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สุด ในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1 ล้าน 7 หมื่นคน อสม.ต้องทำงานหนักขึ้นทั้งโรคอุบัติใหม่ และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรค NCDs ดังนั้นรัฐบาลต้องดูแลให้พวกเขามีกำลังใจในการทำงานช่วยรัฐบาลทั้งเรื่องสวัสดิการ และค่าตอบแทนเพราะปัจจุบันได้รับเงินแค่ค่าป่วยการจากเดิม 600 บาทต่อเดือนปัจจุบันเป็น 2,000 บาทต่อเดือนแต่ยังไม่เพียงพกับงานที่ทำ โดนเฉพาะช่วงที่โควิดระบาด ประเทศไทยได้รับการชมเชยจากองค์กรอนามัยโรคในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งอสม.มีส่วนสำคัญมาก
ทั้งนี้ เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรจะมีร่างพระราชบัญญัติ สาธารณสุขประจำหมู่บ้านได้แล้ว เพื่อให้อสม 1 ล้าน 7 หมื่นคนมีความมั่นคงในการทำหน้าที่ พระราชบัญญัติฉบับนี้อาจจะกำหนดบทบาทหน้าที่ค่าป่วยการ รวมถึงส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้อสม.อย่างต่อเนื่อง เพราะอสมทำงานอย่างไม่มีวันหยุดราชการ ทำงานตลอดเวลา การมีกฎหมายเฉพาะจะทำให้การการทำงานของ อสม.ของมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานให้อสม.อย่างถาวร จึงควรมีกฎหมายเป็นของตัวเองมีสวัสดิการเป็นของตัวเอง และคนในครอบครัว ซึ่งอยู่ในวิสัยที่กระทรวงสาธารณสุขทำได้ดังนั้น จึงอยากถามว่า 1.กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการส่งเสริมประสิทธิภาพของอสม.อย่างไร ขอทราบรายละเอียด 2. กระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางกำหนดค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ สวัสดิการที่เหมาะสมและยั่งยืนอย่างไร และ 3 ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีความคืบหน้าในการจัดทำร่างกฎหมายสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตามที่อสม.ทั่วประเทศมีความต้องการหรือไม่อย่างไร
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ตั้งแต่ 6 เดือนที่ผ่านมา ได้ผลักดันการยกร่างพระราชบัญญัติ อสม. เพื่อให้ค่าป่วยการในการปฏิบัติหน้าที่ของ อสม. บรรจุอยู่ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีทุก ๆ ปี แทนการเสนอของบประมาณเป็นปีต่อปี เพื่อให้ อสม. มีค่าตอบแทนเหมือนเงินเดือนประจำ และยังมีเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลต่างๆ รวมถึงเตรียมเพิ่มรายได้ให้กับ อสม. จากการปฏิบัติงานสนับสนุนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ขณะที่ การเสนอร่างกฎหมายเสนอไปกว่า 6 เดือนแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมบัญชีกลาง กระทั่งทำหนังสือกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้งแต่ยังไม่ผ่าน ไม่ใช่ว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่ดำเนินการเรื่องนี้ เราทำงานเต็มที่แต่ในทางราชการก็ต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตามจะพยายามผลักดันร่างพระราชบัญญัติ อสม. อย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต อสม. ให้ดียิ่งขึ้น แต่ขอให้เข้าใจถึงการดำเนินการที่ต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพิ่งทราบความจริง พระราชบัญญัติอสม.ที่ล่าช้า ไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข ตอนแรกสงสัยว่าช่วงตนเเข้ามาเป็นสว.ปี 2567 นึกว่าล่าช้าที่กระทรวงสาธารณสุข แต่ล่าช้าที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตนอยากให้ฎหมายนี้คลอดออกมาอย่างเป็นทางการ อยากเห็นให้ทันในสมัยนายสมศักดิ์ เป็นรมว.สาธารณสุข ตนเห็นว่าสิ่งที่กรมบัญชีกลางน่าจะเร่งทำเพราะมีประโยชน์ ไม่ใช่เตะถ่วงกฎหมายดีๆ ที่จะไปสนับสนุนอสม. 1 ล้าน 7 หมื่นคน ซึ่งเป็นแขนขาช่วยเหลือกระทรวงสาธารณสุขตนจึงอยากขอเอกสารจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะขอใช้สิทธิถามกระทรวงการคลังต่อไปว่า ทำไมเอ้อละเหย ลอยชายถึงไม่ ยอมให้กฎหมายฉบับนี้เข้าคณะรัฐมนตรี อยากถามกระทรวงการคลังว่า ทำไมเตะถ่วงเความเจริญของประเทศชาติ
