
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ตนโพสต์ถึงการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังที่ให้คะแนนสอบตก ว่า ต้องยอมรับว่ารัฐบาลทำงานมาประมาณ 3 เดือนเศษ ประชาชนก็คาดหวังว่าผลงานจะต้องออกมาตามสิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ แต่ปรากฏว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง และรอจากรัฐบาลยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมเลย เห็นแต่อีเว้นท์ การประกาศ เห็นแต่นโยบาย การชี้แจง แต่เนื้องานที่ออกมาเป็นชิ้นเป็นอันจนเป็นที่พอใจของประชาชนยังไม่มี
ทั้งนี้ หลายสิ่งหลายอย่างที่นายกฯ โพ้งออกมาไม่ได้ดูกลไก หรือตัวกฎหมายหรือระเบียบวิธีปฏิบัติของราชการ ฉะนั้น เมื่อประกาศออกมาก็สะดุด หยุดชะงักไปหมด ไม่ว่าจะเรื่องขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ทำให้ข้าราชการมีความหวัง แต่เมื่อถึงเวลากลับได้บางส่วน รวมถึงเรื่องการจ่ายเงินเดือน 2 ครั้ง การขึ้นค่าแรง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต รวมทั้งการปราบปรามยาเสพติด รวมถึงเรื่องล่าสุด การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
นายวันชัย กล่าวว่า เท่าที่ตนตรวจสอบมาแล้วเป็นการสั่งการที่กระจัดกระจาย ไม่สามารถมีใครปฏิบัติได้จริง ได้แต่ให้นโยบายแต่ละหน่วยงาน แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบไม่มีเจ้าภาพที่แท้จริง เรื่องนี้ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์กับคนจนจริงๆ แต่การสั่งราชการแบบนี้ไม่มีอะไรเป็นมรรคเป็นผลแน่นอน ถ้าอยากจะพิสูจน์ที่เป็นรูปธรรมให้ดูสมัยที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองนายกฯ ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จัดการ นั่นที่เป็นรูปธรรม มีศูนย์รวมในการจัดการและสามารถบริหารจัดการได้ ทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ สามารถที่จะพอใจและแก้ไขปัญหาได้ อย่างนี้จะทำให้เจ้าหนี้เกรงกลัว
“แต่ระบบที่สั่งและนั่งคุย ลงทะเบียน ลงบัญชี ผมจึงบอกว่านี่คือการปาหี่ทางการเมือง สิ่งที่ผมพูดถือว่าพูดกันอย่างกัลยาณมิตร เพราะสว.ก็เป็นส่วนหนึ่งรวมถึงผม ก็เลือกนายเศรษฐา เป็นนายกฯ เราอยากให้นายกฯที่เราเลือกมาทำงานแล้วมันดี ดีกว่าที่ผ่านๆ มา หรือดีตามความคาดหวังของประชาชน หากทำแล้วเหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมผมจะเปลี่ยนเอานายเศรษฐา มาเป็นนายกฯทำไม แล้วเราจะเลือกรัฐบาลชุดนี้มาทำไม ฉะนั้น สิ่งที่ผมพูดออกไปจึงเหมือนเป็นการเตือนนายกฯว่าต้องเปลี่ยนการบริหารการจัดการประเทศใหม่ ไม่ใช่เอาแต่ละพื้นที่ โชว์นั่น โชว์นี่ เราไม่ใช่ดารานักร้อง ระบบราชการมีเครื่องไม้เครื่องมือ มีอุปกรณ์ในการที่จะสนองนายโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ได้เรียกเขามาปรึกษาหารือหรือไม่ ประเทศไม่ใช่เป็นบริษัทเอกชน ที่เราเป็น CEO สูงสุดจะเอาอย่างไรก็ได้”นายวันชัยกล่าว
นายวันชัย กล่าวว่า แต่เท่าที่ผมฟังมาการประสานในพรรคร่วมก็น้อย แม้แต่พรรคตัวเอง รัฐมนตรีต่างๆ ก็ประสานกันน้อย และข้าราชการที่จะต้องทำงานร่วมกันกับท่านก็บอกว่า ท่านฟังเขาน้อยมาก และหัวร้อนไว เรื่องเหล่านี้พวกท่านต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ เพราะท่านอาจไม่มีประสบการณ์เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ หรือไม่มีประสบการณ์เหมือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ท่านมีแต่ความรู้และประสบความสำเร็จด้านธุรกิจเพียวๆ ฉะนั้น จึงเสียดายที่เราเลือกตั้งกันมา เราควรจะได้นายกฯที่ควรที่จะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ตามความต้องการของประชาชน แต่ปรากฏว่า คนคาดหวังแล้ว ผลงานยังไม่ออก ซึ่งในฐานะที่เป็น สว.จึงตะโกนบอกแล้วหากยังไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ อาจจะต้องใช้กลไกของวุฒิสภา ที่มีอำนาจในการอภิปรายทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ในการที่สว.ยังเหลือวาระอีก 1 สมัย กลไลที่สำคัญในการตรวจสอบรัฐบาลอาจจะต้องนำมาใช้ในยุครัฐบาลเศรษฐา ทั้งนี้ สิ่งที่ทำไปไม่ได้มีอคติใด ๆ เพียงแค่ทำในฐานะที่ต้องการให้มีผลงานออกมาและเป็นที่พึงพอใจของประชาชน ไม่ใช่มัวรำมวย รำไปรำมา 3-4 เดือน แค่นี้ ย้ำว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่คนที่เลือกนายเศรษฐา เป็นนายกฯและอยากให้มีผลงาน
เมื่อถามถึง การประเมินผลงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ที่ผ่านมา นายวันชัย กล่าวว่า ถ้า คะแนนเต็ม 10 ให้เพียง 4 คะแนน เพราะได้แต่ภาพ อีเวนท์ การลงพื้นที่ ได้แต่ฉาบฉวย แต่ผลงานชิ้นเป็นอันที่จับต้องได้ยังไม่มี ขณะที่การประสานความร่วมมือของนายกรัฐมนตรีเอง ทั้งภาคราชการ และคณะรัฐมนตรี ยังน้อยเกินไป เพราะอาจชินกับการเป็นผู้บริหารบริษัทภาคเอกชน และยังไม่ทราบว่าการบริหารราชการแผ่นดินมีกลไกกฎหมาย ข้อบังคับ จะทำเหมือนบริษัทขายบ้า นจัดสรรไม่ได้
เมื่อถามถึงการขอลาพักร้อนระหว่างวันที่ 19-22 ธ.ค. ของนายกรัฐมนตรี นายวันชัย กล่าวว่า เปรียบเหมือนมวยที่คนต่อยหนัก ต่อยตลอด แต่ต่อยไม่ตรงเป้า มันวืดไปหมด ตนมองว่า นายกรัฐมนตรีรำมวยสวย ไหว้คนสวยงาม ลงพื้นที่เก่ง แต่ชกไม่ตรงเป้า ไม่ได้คะแนน เสียดาย ส่วนเหตุผลที่นายกฯ ลาพักร้อนนายกรัฐมนตรีคงจะหัวร้อนมานาน จึงอยากจะพักร้อนบ้าง