“สมเด็จธงชัย”ร่วมขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต่อยอดสู่หมู่บ้านศีลธรรม

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” กระทรวงมหาดไทย เมตตาเป็นประธานกล่าวสัมโมทนียกถา เปิดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” โดยได้รับความเมตตาจากพระเถรานุเถระผู้เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ได้แก่ พระพรหมเสนาบดี พระธรรมวชิรานุวัตร พระเทพเสนาบดี พระสุธีรัตนบัณฑิต พระศรีสมโพธิ พระปัญญาวชิรโมลี พระพิพัฒน์วชิโรภาส พระครูพิพิธวรกิจจาทร พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ ร่วมประชุม โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กล่าวสัมโมทนียกถา ความว่า ขอขอบคุณท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ช่วยสานต่องานตามโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” หลังจากได้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ที่มีอาตมาภาพเป็นประธานขับเคลื่อนตามคำสั่งมหาเถรสมาคมที่ 3/2566 โดยได้มีการจัดการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ณ หอประชุมพุทธมณฑลแล้วนั้น โดยท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กลับมาประชุมหาแนวทางขับเคลื่อนตามกลไกฝ่ายบ้านเมืองร่วมกับฝ่ายสงฆ์และได้ตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นมาช่วยกันขับเคลื่อนให้บังเกิดผลดีเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” นี้ มหาเถรสมาคมมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อมุ่งหวังปลุกจิตใจสำนึกและสร้างความตระหนักรู้ รักและเชิดชู สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้เป็นสถาบันหลักของประเทศอย่างมั่นคง โดยศีล 5 ข้อ คือข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐานทางพระพุทธศาสนาเพื่อควบคุมความประพฤติทางกายและวาจาให้ตั้งอยู่ในความดีงาม มีความปกติสุข ก่อให้เกิดความสุข ความรักสามัคคี เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และเป็นข้อปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความสามัคคีเกิดขึ้นในชุมชน และยังช่วยสร้างบรรยากาศความสงบสุขเรียบร้อยเพื่อนำพาความสงบสุขมาสู่ประเทศชาติ

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” คือ การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนโดยใช้กลไกทางพระพุทธศาสนา “หลักศีล 5” เพื่อสร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ สันติสุข ทำให้คนในหมู่บ้านปฏิบัติโดยยึดหลักการรักษาศีล 5 จะสำเร็จได้นั้น คนทุกคนต้องเป็นผู้มีความตั้งใจจริง มีใจอยากเห็นคนในสังคมรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือเป็นคนดีที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข มีชีวิตที่อยู่ในชุมชน หมู่บ้าน ที่มีความสงบสุขอย่างยั่งยืน และขยายผลหมู่บ้านรักษาศีล 5 ไปสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยยึดหลักไตรสิกขา ผู้ที่มีสมาธิและปัญญา มีความมุ่งมั่นทำความดี ตั้งใจดี ที่ยึดหลักสามัคคีเป็นพลัง ถ้าสามารถยึดหลักไตรสิกขาให้ครบถ้วนได้ ก็จะสามารถพัฒนาไปสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” ทั้งนี้ ภายใต้ภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชน สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่หวังให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ทุกท่านต้องทุ่มเทสติปัญญา ความรู้ความสามารถ ไปช่วยกันขับเคลื่อนโครงการร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเริ่มที่ “ครอบครัวของเราเอง ที่ทำงาน หน่วยงานของเรา” ควบคู่กับการไปเชิญชวนให้ทุกหมู่บ้านใน 878 อำเภอ ทั้ง 76 จังหวัด ได้ช่วยกันสร้างความรัก สามัคคี ความสุข ให้เกิดขึ้นตามแนวทางของโครงการฯ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอกราบขอบพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เป็นอย่างสูงที่เมตตามอบสัมโมทนียกถาอันเป็นหลักชัยที่สำคัญให้พวกเราได้มีแนวทางการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษา ศีล 5” โดยประการที่สำคัญ คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้เมตตาประทานแนวทางให้ร่วมการพัฒนายกระดับของหมู่บ้านรักษาศีล 5 สู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” โดยเน้นย้ำว่า “ศีลธรรมมีในทุกศาสนา” จึงขอให้ทุกคนทุกฝ่ายได้ช่วยกันสื่อสารขยายผลว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 นี้มีเป้าหมาย คือ “การเป็นหมู่บ้านศีลธรรม” เพราะว่าศีลธรรมในทุกศาสนาย่อมสอนให้เป็นคนดี โดยถือเอาสัมโมทนียกถานี้เป็นโอกาสวาระที่เป็นมงคลที่เราร่วมกันขับเคลื่อนในเดือนกรกฎาคม 2566 ที่เป็นเดือนมหามงคลเป็นเดือนพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ด้วยการเชิญชวนให้คนไทยทุกหมู่เหล่าช่วยกันทำความดี ช่วยกันขับเคลื่อนงานซึ่งจะทำให้พสกนิกรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีความสุข มีสันติสุขและทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้หมู่บ้านศีลธรรมนี้มีครบทั้ง 80,000 กว่าหมู่บ้าน/ชุมชนใน 7,255 ตำบล 878 อำเภอ 76 จังหวัด โดยถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นแนวทางเป็นแสงสว่างสาดส่องให้เราได้ช่วยทำกันต่อไป

หลักสำคัญของการประชุมฯ ในครั้งนี้ คือการที่จะทำอย่างไรให้ทุกหมู่บ้านที่ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรได้รับประโยชน์จากการขับเคลื่อนของทุกภาคส่วน โดยทางกระทรวงมหาดไทย ได้ออกคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 2145/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” และคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 2146/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ” โดยมีแนวทางการขับเคลื่อน บูรณาการการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ร่วมกับโครงการของ กระทรวงมหาดไทยที่ดำเนินการในระดับพื้นที่ เช่น โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ของกรมการปกครอง โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โครงการหมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง (หมู่บ้านอยู่เย็น) ของกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมแนวทางการความมั่นคงทางอาหาร เช่น “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” และ “ทางมีผลผู้คนรักกัน” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร การทำขยะเปียกลดโลกร้อน การจัดการขยะหมู่บ้าน/ชุมชน และสุดท้ายความมั่นคงปลอดภัย (หมู่บ้าน/ชุมชน) เพื่อร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนอย่างยั่งยืน

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กล่าวสัมโมทนียกถาในช่วงท้ายว่า โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 มีกำหนดกรอบ ทิศทาง แนวนโยบาย และยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนโครงการฯ เชิงคุณภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านจิตใจของพุทธศาสนิกชน โดยยึดหลัก “ไตรสิกขา” ธรรมะแห่งการพัฒนาชีวิตให้ประสบความสำเร็จตามหลักพระพุทธศาสนาเป็นหัวใจสำคัญ อันได้แก่ ศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันกับโครงการต่าง ๆ และพันธกิจส่วนใหญ่เป็นของกระทรวงมหาดไทย ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ถวายเป็นพระราชกุศล “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” แก่ราษฎรอย่างแท้จริง มีผลสำเร็จเชิงประจักษ์ เป็น มรรค มีการประเมินผลตามหลักตัวชี้วัด (KPI) สามารถวัดค่าดัชนีของกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนทุกหน่ยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาเป็นจำนวนสถิติ เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาและประเมินผลการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 สืบไป

Message us