สธ.วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกโควิดกลับมาระบาดยันคุมได้

เมื่อวันที่ 24 เมษายน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ฝากถึงประชาชนอย่าตื่นตระหนกถึงข่าวสารเกี่ยวกับโรคโควิด และขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมควบคุมโรค กระทรงงสาธารณสุขเท่านั้น นพ.ชลน่านห่วงใยประชาชนต่อสถานการณ์ของโรคโควิด ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ แม้ว่าปัจจุบันโรคโควิด เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ แต่ยังไม่มีรายงานการระบาดรุนแรง และที่ผ่านได้มีการสั่งการสาธารณสุขทุกจังหวัดประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อม กำชับทุกหน่วยงานดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ รอบสัปดาห์ล่าสุด (วันที่ 14 – 20 เมษายน 2567) ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคโควิดที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,004 ราย เฉลี่ยวันละ 143 ราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปตามรายงานของกรมควบคุมโรคว่า หลังสงกรานต์จะพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจากการเล่นน้ำสงกรานต์ พื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากขึ้นคือ กรุงเทพฯ จังหวัดปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวหลายแห่ง คาดว่า เป็นเพราะส่วนใหญ่มีอาการเหมือนไข้หวัด ทำให้ไม่ระวังป้องกันตนเอง จึงเกิดการแพร่เชื้อมากขึ้น ทั่วประเทศมีผู้ป่วยอาการรุนแรง ปอดอักเสบ 292 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 101 ราย และเสียชีวิต 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทุกรายเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคเรื้อรังที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า จากการติดตามเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในประเทศไทย ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า ยังคงเป็นสายพันธุ์รุ่นลูกของโอมิครอน โดยผู้ป่วยจะมีลักษณะอาการคล้ายหวัด เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อย ตามตัว ปวดศีรษะ มีน้ำมูก โดยยังไม่พบว่า มีระดับความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์โอมิครอนเดิมในปีที่ผ่านมา

“โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เป็นข่าว ประชาชนทั่วไปสามารถป้องกันได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่แออัดที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น รถสาธารณะ โรงพยาบาล สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หากมีอาการคล้ายหวัด ตรวจ ATK ผลเป็นบวก ให้กินยารักษาตามอาการ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ถ้าอาการมากขึ้นให้ไปพบแพทย์ กลุ่มเสี่ยง 608 (ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง) หากมีอาการคล้ายหวัด ตรวจ ATK เป็นบวก 2 ขีด ควรสวมหน้ากากอนามัยและรีบพบแพทย์รับการรักษา เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการรุนแรง โรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมทั้งด้านบุคคลากรทางการแพทย์ เตียงรองรับผู้ป่วย เวชภัณฑ์ ขอประชาชนอย่าได้วิตกกังวลหรือตื่นตระหนก กระทรงงสาธารณสุขพร้อมดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด”โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าว

Message us