
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่บริเวณลานจอดรถบัสด้านทิศใต้ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่ากาศยานเชียงใหม่ นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 10-18 เมษายน 2566 ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก

สำหรับ การปล่อยแถวดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ ด้านความมั่นคงที่ปฏิบัติงาน อาทิ ตำรวจภูธร ภูพิงคราชนิเวศน์ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กองบิน 41 รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด่านศุลกากร สายการบิน ส่วนราชการและผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้งจุดสรงน้ำพระ พร้อมจัดกิจกรรมสาธิตการตัดตุงไส้หมูบริเวณห้องโถงผู้โดยสาร ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้สัมผัสบรรยากาศสงกรานต์เชียงใหม่ ตั้งแต่เดินทางมาถึงสนามบิน

ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่า จะมีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติประมาณ เกือบร้อยละ 10 โดยเฉพาะในเส้นทางระหว่างประเทศที่ปัจจุบันให้บริการถึง 18 เส้นทาง โดยคาดการณ์ว่าในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายนจำนวนเที่ยวบินสูงสุดมีโอกาสถึง 168 เที่ยวบินต่อวัน จากปกติวันละ 156 เที่ยวบิน และจำนวนผู้โดยสารสูงสุดวันละกว่า 23,000 คนต่อวัน จากปกติวันละประมาณ 21,000 คน และเนื่องจากมีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในหลายพื้นที่ในเขตตัวเมืองชั้นใน ที่อาจส่งผลต่อการจราจรโดยรอบ รวมถึงเส้นทางที่จะเข้าออกสนามบิน จึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง 2-3 ชั่วโมง หรือใช้ แอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ช่วยวางแผนการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือแจ้งข้อมูลอัตราการจองห้องพักในช่วงสงกรานต์ว่า แม้จะมีสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานรายสัปดาห์แต่ช่วงสงกรานต์ยังพบการจองเข้ามาเที่ยวในอัตราร้อยละเกิน 70 ทำให้สงกรานต์ปีนี้จะยังคงคึกคักและเป็นปีแรกหลังจากวิกฤตโควิดที่มีการจัดกิจกรรมอย่างเต็มที่ อีกทั้งทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงใหม่ ยังยืนยันการคาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวมามากกว่าแสนคนและมีรายได้สะพัดในระบบมากกว่า 1.1 พันล้านบาท
ข่าว/ภาพ : ภาณุเมศ ตันรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่