
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเฝ้าระวังและเร่งปราบปรามการการลักลอบนำเข้ามาในและส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าตามนโยบายของรัฐบาลในทุกช่องทาง รวมถึงสินค้าที่มีการลักลอบหนีศุลกากรอื่น ๆโดยในช่วง 10 วัน ก่อนสิ้นเดือนตุลาคม (วันที่ 22 – 31 ตุลาคม 2567) กรมศุลกากรได้ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีผลงานการจับกุมที่โดดเด่น ดังนี้
- ยาเสพติด
- พยายามลักลอบส่งออกยาเสพติดไปนอกราชอาณาจักร
1.1 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกองสืบสวนและปราบปราม ได้ดำเนินการตรวจสอบใบขนสินค้าเร่งด่วนขาออก ปลายทางประเทศออสเตรเลีย
สำแดงสินค้าเป็น SAMPLE MICROSCOPE จำนวน 5 Carton จากการตรวจสอบ พบเครื่อง MICROSCOPE แต่จากภาพ X – RAY และการตรวจสอบทางกายภาพพบว่ามีสิ่งของซุกซ่อนอยู่ภายใน เมื่อทำการตรวจสอบโดยละเอียด พบห่อพลาสติกหุ้มด้วยเทปกาวสีน้ำเงิน จำนวน 9 ห่อ ภายในพบก้อนเกล็ดใส และเมื่อทำการทดสอบด้วยเครื่องทดสอบสารเสพติด (เครื่องรามัน) และชุดทดสอบสารเสพติด ให้ผลเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (Methamphetamine)
น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 9.07 กิโลกรัม มูลค่า 21.76 ล้านบาท
1.2 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงในการลักลอบส่งของต้องห้ามต้องกำกัดออกนอกราชอาณาจักร ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ พบพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศต้องสงสัย ปลายทางประเทศเกาหลีใต้ สำแดงชนิดสินค้าเป็น “Lego Set” ตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (Methamphetamine) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวใส บรรจุในถุงพลาสติก ซุกซ่อนภายในตัวต่อ Lego น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 750 กรัม มูลค่า 2.06 ล้านบาท
1.3 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้ทำการวิเคราะห์
ความเสี่ยงในการลักลอบส่งของต้องห้ามต้องกำกัดออกนอกราชอาณาจักร ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ พบพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศต้องสงสัย ปลายทางประเทศอิสราเอล สำแดงชนิดสินค้าเป็น “SNACK” ตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ไอซ์ (Methamphetamine) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวใส ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟลอยด์ ซุกซ่อนภายในซองเครื่องดื่มขิงผงสำเร็จรูป น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 950 กรัม มูลค่า 2.375 ล้านบาท
กรณีตามข้อ 1.1 – 1.3 เป็นความผิดฐานพยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 242 และ 252 ประกอบมาตรา 166 และ 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด
- นำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร
1.4 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม และสำนักงานศุลกากร
ตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force: AITF) ได้ร่วมกันวิเคราะห์ สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับเครือข่ายลักลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน พบหญิงสัญชาติกิเนียน มีความเสี่ยงลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร เดินทางมาจากเมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย จึงทำการตรวจสอบ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ซุกซ่อนอยู่บริเวณขอบกระเป๋าเดินทาง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 2,000 กรัม มูลค่า 6 ล้านบาท
1.5 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรหนองคาย ได้ทำการตรวจรถยนต์และสิ่งของที่มากับรถยนต์ที่จะเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณจุดตรวจด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 พบรถยนต์ที่มีชายสัญชาติลาวเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ เดินทางมาพร้อมผู้โดยสารหญิงชาวไทย จำนวน 2 คน
เมื่อนำกระเป๋าสัมภาระไปตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ ปรากฎภาพต้องสงสัยในกระเป๋าสัมภาระ จึงนำสิ่งของดังกล่าว
มาทดสอบด้วยน้ำยา (ONCB 051) MARQUIS REAGENT พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 6.9 กิโลกรัม มูลค่า 3 ล้านบาท
กรณีตามข้อ 1.4 – 1.5 เป็นความผิดฐานนำเข้ายาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 242 และ 252 ประกอบมาตรา 166 และ 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด
- บุหรี่ต่างประเทศ
2.1 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ลงพื้นที่ตรวจสอบพัสดุ ณ ศูนย์ไปรษณีย์ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยตรวจพบบุหรี่ ที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ และไม่พบเอกสารหรือหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จำนวน 397,000 มวน มูลค่า 1.58 ล้านบาท และบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 199 ชิ้น มูลค่า 20,750 บาท
2.2 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยด่านศุลกากรจันทบุรี ภายใต้การกำกับดูแล
ของสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย สาขาโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ร่วมกันตรวจสอบพัสดุพบบุหรี่ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ และไม่พบเอกสารหรือหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จำนวน 246,400 มวน มูลค่า 1.3 ล้านบาท
2.3 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับกองสืบสวนและปราบปราม และด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบบริษัทขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากได้รับการข่าวว่ามีสินค้าลักลอบหนีภาษี โดยตรวจพบบุหรี่ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ เบื้องต้นไม่มีเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร จำนวน 480,000 มวน มูลค่า 480,000 บาท
2.4 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับกองสืบสวนและปราบปราม และด่านศุลกากรท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบพัสดุในบริษัทขนส่งเอกชน
แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อเข้าตรวจสอบ พบสินค้าประเภทบุหรี่ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ
และไม่พบเอกสารหรือหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จำนวน 340,000 มวน มูลค่า 4 ล้านบาท
2.5 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร กองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย สาขาสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกันตรวจสอบพัสดุ พบบุหรี่ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ และไม่พบเอกสารหรือหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จำนวน 120,000 มวน มูลค่า 600,000 บาท
กรณีตามข้อ 2.1 – 2.5 เป็นความผิดตามมาตรา 242 245 246 247 ประกอบมาตรา 166 และ 167
แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
- บุหรี่ไฟฟ้า
3.1 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ได้ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า ประเทศกำเนิด CHINA พบสินค้าที่ไม่ได้สำแดง เป็นบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้งคละกลิ่น
จำนวน 10,000 ชิ้น มูลค่า 726,287 บาท
3.2 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับกองสืบสวนและปราบปราม และด่านศุลกากรมุกดาหาร ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า เนื่องจากได้รับการข่าวว่ามีสินค้าที่พยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรและหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัด ผลการตรวจสอบพบสินค้าที่ไม่ได้สำแดง เป็นบุหรี่ไฟฟ้า
จำนวน 8,000 ชิ้น มูลค่า 2.4 ล้านบาท
3.3 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 และด่านศุลกากรมุกดาหาร ตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้า ณ โรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้าและบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตท่าเรือรับอนุญาต (รพท.) ในพื้นที่ตำบลบางทรายใหญ่
อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 8,000 ชิ้น มูลค่า 2.4 ล้านบาท
กรณีตามข้อ 3.1 – 3.3 เป็นความผิดฐานแสดงข้อมูลไม่ถูกต้อง ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงข้อห้าม
ตามมาตรา 202 244 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522