“ศิริกัญญา”อัดแหลก ! รัฐบาลตัดงบฯ เอาไปโปะดิจิทัลวอลเล็ต

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระแรก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายว่า งบประมาณปี 2568  ของรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยทำลายสถิติใหม่ทางการคลัง โดยเป็นการตั้งงบรายจ่ายลงทุนสูงที่สุดในรอบ 17 ปี และมีการตั้งงบสูงสุดหลายตัว โดยตั้งงบขาดดุลต่อจีดีพี หรืองบขาดดุลสูงที่สุดในรอบ 36 ปี  งบที่ตั้งไว้ชำระดอกเบี้ย สูงที่สุดในรอบ 14 ปี  หนี้สาธารณะต่อจีดีพี สูงที่สุดในรอบ 29 ปี  ขณะที่สัดส่วนการชำระคืนเงินต้นของเงินกู้ สูงที่สุดในรอบ 31 ปี  ซึ่งในปีปกติที่ไม่ใช่วิกฤต ประเทศไทยไม่เคยกู้เงินมากมายขนาดนี้มาก่อน เราไม่เคยทำแบบนี้ ถือเป็นความกล้าหาญมาก เพื่อเอามาชดเชยการขาดดุล จึงดูเหมือนว่ารัฐบาลเริ่มเสพติดการขาดดุล กู้เต็มแม็กทุกปี แม้หมดโควิดแล้วก็ยังกู้เต็มแม็ก

น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายว่า ปัญหาคือเมื่อใช้จ่ายเกินตัวไป หาเงินไม่ทัน ทำให้ชีวิตเสี่ยง แต่รอบนี้ไม่ได้เสี่ยงแค่คนๆ เดียว เพราะรัฐบาลนี้ที่ใช้เงินมือเติบ จะพาเราไปเสี่ยงด้วย ซึ่งหากมีสถานการณ์วิกฤต จะไม่มีเงินรองรับ รัฐบาลทำตัวโนสนโนแคร์ ทำเพื่อให้มีเงินมากพอที่จะทำโครงการเดียวคือดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ต้องกู้เต็มเพดาน 2 ปีติดกัน

น.ส.ศิริกัญญา ถึงกับต้องเอ่ยปากว่า “คุณพระ” ให้กับสัดส่วนรายจ่ายลงทุนที่สูงสุดตั้งแต่ปี 2549 ที่ 24% เมื่อไปดูพบว่าไปรวมเงินดิจิทัลวอลเล็ตกว่า 80% ของงบโครงการด้วย เราก็รู้กันอยู่ว่าส่วนใหญ่เมื่อแจกเงินไปแล้ว เอามาใช้จ่ายเพื่อการบริโภค เมื่อมองแล้วจะเอามาเป็นงบลงทุนได้อย่างไร ตนก็ยังคิดไม่ออก ซึ่งหากลองตัด 80% ของบดิจิทัลวอลเล็ต จะพบว่ารายจ่ายของเราอยู่แค่ 20.8% แต่ยังมีชนวนที่ชวนสงสัยอีกว่า นอกจากการยัดเงินงบดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้งบลงทุนดูโปร่ง รัฐบาลดูดี แต่ยังตัดงบประมาณรายจ่ายประจำบางตัว เพื่อเปลี่ยนเป็นงบลงทุน รวมแล้วกว่า 167,000 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อดูงบลงทุนจริงๆแล้ว จะเหลือแค่ 16.4% ส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ก็สูงที่สุดในรอบ 29 ปี ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ดังนั้นในปี 2570 คาดว่าจะมีหนี้สาธารณะกว่า 68.9% และเตรียมส่งต่อหนี้ก้อนใหญ่นี้ให้กับรัฐบาลต่อไป

สำหรับ งบที่เพิ่มขึ้นมาก แต่เหลือใช้ได้จริงแค่ 1 ใน 4 ซึ่งไม่ถึง 1 ล้านล้านบาท ขณะที่รัฐบาลตั้ง 142 ประเด็นนโยบาย โดยสำนักงบประมาณมาชี้แจงว่างบ 68 นั้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลถึง 2.5 ล้านล้านบาท ฟังเผินๆดูดีมาก จึงตั้งคำถามว่าอันนี้รวมเงินเดือนข้าราชการด้วยหรือไม่ ตนจึงคิดว่ารัฐบาลถูกข้าราชการย้อมแมว นำโครงการเดิมสมัย พลเอก ประยุทธ์ มาแปะป้ายใหม่เป็นนโยบายเศรษฐา และที่เลวร้ายที่สุดคือ โครงการ 8 วิสัยทัศน์ Ignite Thailand ไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมในงบ ปี 68 ซึ่งมีข้ออ้างมากมายที่จัดงบไม่ทัน โดยเฉพาะนโยบายซอฟพาวเวอร์กล่องดวงใจ กลับถูกหั่นงบเหลือไม่ถึงครึ่ง

อย่างไรก็ตาม เรียกได้ว่าสำนักงบตัดหมดไม่สนลูกใคร ถ้าท่านมีความพยายามที่จะผลักดันนโยบายอื่นให้ได้ครึ่งหนึ่งของดิจิทัลวอลเล็ต ก็จะดีมากๆ เพราะมันไม่ใช่แค่งบประมาณการคลัง แต่รวมถึงสมาธิของคณะรัฐมนตรีด้วย ที่ต้องถูกทุ่มไปกับ โครงการนี้โครงการเดียวคือดิจิทัลวอลเล็ต และคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะได้ทำหรือไม่ ซึ่งหากเงินดิจิทัลวอลเล็ต หาเจ้าภาพในการจัดสรรงบไม่ได้ ก็ไม่ควรใช้งบกลาง ตนจึงตั้งคำถามว่าผิดมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง หรือไม่ ดังนั้นขอจบเรื่องนี้ด้วยการฝากท่านประธาน ผ่านไปยังข้าราชการประจำทั่วประเทศ ที่ซื่อตรงต่อหลักการ หลักวิชาการที่ร่ำเรียนมา หากพบว่ามันมีความผิดปกติ ขอให้ส่งหนังสือท้วงติงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งทางกฎหมาย ทางหลักวิชาการ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

Message us