
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด สส.ปทุมธานี เขต 3 ได้เดินทางออกมาจากศาลจังหวัดธัญบุรี ร่วมฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ 1971/2565 คดีสืบเนื่องจากการชุมนุมที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง โดย บรรดามวลชนต่างปรบมือแสดงความยินดี เมื่อเห็นหน้าลูกเกด ก่อนเดินมาหาสื่อมวลชนที่ยืนรอสัมภาษณ์ โดยศาลมีคำตัดสินยกฟ้องทั้งหมด 9 คน ในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในส่วนของลูกเกด ศาลยกฟ้องกรณี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่นกัน แต่ให้จำคุก 3 ปี ในคดี ม.112 ซึ่งทางจำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี จากนั้นทางด้านทนายได้ทำการยื่นประกันด้วยเงินสดเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินเดิมที่เคยประกันตัวไว้ แต่เพียงแค่เป็นการเปลี่ยนสัญญาใหม่เพียงเท่านั้น

ด้าน น.ส.ชลธชาเปิดเผยว่า ในเบื้องต้น คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ส่วน 9 คน ศาลยกฟ้องในคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงตนด้วย แต่มีตนคนเดียวที่ถูกฟ้องในคดี 112 ซึ่งวันนี้ศาลก็ลงว่า ผิดซึ่งในระหว่างนี้เราก็จะยื่นอุทธรณ์ต่อไปต้องสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งในวันนี้ศาลก็ให้สิทธิในการประกันตัวออกมา ในขบวนการประกันตัวในครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมาก คือ ใช้หลักทรัพย์เดิม วางหลักทรัพย์แค่เปลี่ยนสัญญาการประกันแค่นั้น โดยวางเงินสด 150,000 บาท ส่วนในเรื่องของคดีไม่ขอลงรายละเอียด

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากน.ส.ชลธิชา ตอนระหว่างชุมนุมก็ได้มีการปราศรัยกฎหมาย 2 ฉบับที่ออกมาในยุคสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลังการรัฐประหาร ก็คือ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการในพระองค์ แล้วก็การจัดระเบียบทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ซึ่งน.ส.ชลธิชาก็เห็นว่า ในการปราศรัยครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในระยะยาว อย่างไรก็ตามทางจำเลยคือน.ส.ชลธิชา สู้ในเจตนาของตนเองว่าเป็นอย่างไรแต่ว่าศาลก็ยังเห็นว่าผิดสั่งพิพากษาจำคุก 3 ปี ลดโทษให้เหลือ 2 ปี ก็ต้องอุทธรณ์ ต่อไป
