วุฒิสภาหารือคณะมณฑลเจ้อเจียงสานสัมพันธ์ความร่วมมือเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการค้า

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ นำโดย นายโสภณ มะโนมะยา รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง และนายชิบ จิตนิยม รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า ร่วมกับคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา นำโดย นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการ และคณะ ได้ร่วมกันให้การรับรอง Mr. Chen Jianzhong ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมณฑลเจ้อเจียงในหลากหลายมิติ

นายนิเวศ ในฐานะผู้แทนของนายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้แทนจากมณฑลเจ้อเจียงอย่างอบอุ่น โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมาเยือนครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศไทยและจีนเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตอันแน่นแฟ้น เปรียบเสมือน “พี่น้อง” ตามคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทย ใช่อื่นไกลเป็นพี่น้องกัน”

นายนิเวศ กล่าวถึงบทบาทสำคัญของจีนในการเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงหนองคาย-กรุงเทพฯ และโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างสองประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นขึ้นภายหลังการลงนาม MOU หลายฉบับระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้านศุลกากรที่จะอำนวยความสะดวกทางการค้า
ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

นายนิเวศ ฃกล่าวชื่นชมความก้าวหน้าของจีนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ และ AI ซึ่งคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีฯ วุฒิสภา ได้ประจักษ์ด้วยตนเองจากการศึกษาดูงาน และคาดหวังว่า จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเหล่านี้มาสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

สำหรับ ด้านเศรษฐกิจ มีนักลงทุนจากมณฑลเจ้อเจียงเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยกว่า 3,000 ราย คิดเป็น 13% ของการลงทุนจากจีนทั้งหมด โดยส่วนใหญ่อยู่ใน EEC โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ การมีเมืองหางโจวเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างรัฐสภาไทยและสภาประชาชนแห่งชาติจีน รวมถึงความร่วมมือทางวิชาการด้านภาษาจีน

ในตอนท้าย นายนิเวศได้กล่าวขอบคุณ Mr. Chen Jianzhong และยืนยันว่าวุฒิสภาไทยพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในทุกด้าน เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมณฑลเจ้อเจียงเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้าน Mr. Chen Jianzhong ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมาธิการของไทยสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และชื่นชมการจัดงานสัมมนาและกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคณะผู้แทนจากเจ้อเจียง โดยเฉพาะการเยี่ยมชม EEC และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง

Mr. Chen กล่าวว่ารู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน และเน้นย้ำว่ามณฑลเจ้อเจียงเป็นมณฑลเศรษฐกิจชั้นนำอันดับ 4 ของจีน มี GDP กว่า 90,000 ล้านหยวน และมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกกว่า 50,000 ล้านหยวน คิดเป็น 13% ของตลาดจีน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือนิงโป-โจวซาน ซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์อันดับหนึ่งของโลก

นอกจากนี้ เจ้อเจียงยังเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัล มีการลงทุนด้าน R&D สูงกว่า 3% ของ GDP และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำอย่างอาลีบาบา รวมถึงมีความโดดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาอย่างยั่งยืน Mr. Chen ยังกล่าวถึงความสำเร็จในการยกระดับรายได้ของเกษตรกรจนสูงเป็นอันดับหนึ่งของจีน และรายได้เฉลี่ยของประชากรในเขตเมืองที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

Mr. Chen ยังกล่าวถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนระหว่างประเทศ แม้จะมีความท้าทายจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งจีนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล และเป็นโอกาสให้จีนและไทยร่วมมือกันเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ คณะจากเจ้อเจียงได้นำนักธุรกิจกว่า 30 องค์กรมาร่วมแสวงหาความร่วมมือกับไทย และเชิญชวนคณะวุฒิสภาและนักธุรกิจไทยไปเยี่ยมชมมณฑลเจ้อเจียง

ด้าน นายโสภณ มะโนมะยา ได้สอบถามถึงรายละเอียดของคณะนักธุรกิจที่เดินทางมาเยือนไทย และขอคำแนะนำเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะสินค้าไทยที่เป็นที่ต้องการของตลาด

Mr. Chen ตอบว่า คณะนักธุรกิจที่มาในครั้งนี้มีความหลากหลาย ทั้งด้านเครื่องกล เครื่องไฟฟ้า พลังงานใหม่ เคมี และยา ส่วนสินค้าไทยที่มีศักยภาพในตลาดจีนคือสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน มะพร้าว และข้าว รวมถึงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวจีน

ขณะที่ นายชิบ จิตนิยม ได้สอบถามถึงแนวทางการพัฒนาเกษตรกรในเจ้อเจียงจนมีรายได้สูงเป็นอันดับหนึ่งของจีน และให้ความสนใจเป็นพิเศษกับหลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงให้เป็นเศรษฐีรุ่นใหม่ โดยแสดงความประสงค์ที่จะนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้กับการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาไทย นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงท่าทีของจีนต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยย้ำว่าจีนจะให้ความสำคัญอย่างยิ่งหากข้อตกลงใดๆ กับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางการค้าและการลงทุนของจีน

โดย Mr. Chen อธิบายว่า ความสำเร็จของเจ้อเจียงมาจากนโยบายเปิดประเทศ วัฒนธรรมการทำงานหนัก และการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเป็นขั้นตอน รวมถึงการให้ความสำคัญกับการศึกษาและการบ่มเพาะสตาร์ทอัพของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง พร้อมยินดีต้อนรับนักศึกษาไทยไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้

สำหรับ ประเด็นภาษีสหรัฐฯ Mr. Chen ยืนยันหลักการค้าเสรีที่เท่าเทียมและเป็นธรรม และเสนอให้ไทยและจีนร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเจ้อเจียงพร้อมเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับไทยในทุกด้าน เพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน

Message us