
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2568 ที่โรงแรมสวนสนปฏิพัทธ์ หัวหิน สมาชิกวุฒิสภา นำโดย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ร่วมแถลงถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมรับเรื่องกรณีที่กลุ่มอดีตผู้สมัคร สว. ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว.ปี 2567 ว่า ได้มาโดยมิชอบ ไว้เป็นคดีพิเศษ เหตุเกี่ยวข้องกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
นายมงคล กล่าวว่า จากการตรวจสอบในหลายด้านทราบว่า ดีเอสไอ เตรียมบรรจุเรื่องนี้ตามคำร้องของ สว.กลุ่มสำรองที่ต้องการให้สอบสวนการทุจริตเลือก สว. ซึ่งตนมองว่าประเด็นนี้ไม่ถูกต้อง เพราะการตรวจสอบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กกต. ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบแล้ว โดยสว.ก็ได้ให้ความร่วมมือไปให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สว.จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป หากเข้าข่ายข้อกฎหมายเรื่องใดที่มีความผิดปกติ หรือเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดหรือบุคคลใดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อวุฒิสภาของเรา เราก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างที่สุด ยืนยันว่า สว.เข้ามาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ตามเงื่อนไขและระเบียบ ที่กกต.กำหนด และทำหน้าที่ของสว. ตรงไปตรงมา ไม่ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับผู้ใด และการตรวจสอบของ กกต. ก็เป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ของ กกต. ส่วนหน่วยงานที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ ที่ออกมาให้ข่าวนั้น จำเป็นทำให้ สว.ต้องมาปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของเรา
ขณะที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กล่าวว่า ข่าวที่ปรากฏทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นต่อสว. ในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ กระบวนการของดีเอสไอ ไม่ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนใด แต่มีกระแสข่าวว่า ดีเอสไอ จะรับเรื่องนี้ไว้ ทั้งนี้ในประเด็นข้อกฎหมาย ส่วนตัวมองว่าการทำงานของภาครัฐต้องอยู่ในขอบเขตหน้าที่ และอำนาจ หากกฎหมายไม่ได้มอบอำนาจ ซึ่งการให้ข่าวจากหน่วยงานและพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทำให้สว.เสื่อมเสียและทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ สว.ทุกคนมาโดยสุจริต โปร่งใส มาในการแข่งขันที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนข้อกล่าวหา อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นการให้ข่าวที่ผิดไป ขณะนี้ตนได้เตรียมรวบรวมข้อมูล และข้อกฎหมาย เพื่อแก้ข้อกล่าวหาให้กับ สว.ทั้งหมดแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. กล่าวว่า ยืนยันว่า สว.ชุดปัจจุบันมาโดยรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มาโดยสมาคม หรืออั้งยี่ อะไรตามที่กล่าวหา ซึ่งข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นนั้นเกินเลยจากข้อเท็จจริง วุฒิสภา คณะรัฐมนตรี องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ การกล่าวหาว่า องค์กรของรัฐที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน เป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ นี่คือ การใส่ความ
“มันผู้ใดก็ตามที่ใส่ความ สว. ทำให้เกิดความเสียหาย บั่นทอนความเชื่อมั่นในกระบวนการนิติบัญญัติคนที่ทำต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตนเองกระทำ ทั้งหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารบ้านเมือง ต้องรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง ส่วนผู้ร้อง ที่เคยเข้ากระบวนการคัดเลือกเป็น สว. แต่เข้ามาไม่ได้ กลับมากล่าวหาว่าเป็น กระบวนการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ต้องมองย้อนกลับไปว่า ท่านทำตามกติกาแต่ทำไม่ได้ ก็มากล่าวหาว่าไม่ชอบกฎหมายดังนั้นต้องรับผิดชอบ” พ.ต.อ.กอบ กล่าว
พ.ต.อ.กอบ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีกระบวนการจัดตั้ง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวิธีการฉ้อฉลเพื่อทำให้เกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญที่ใช้ปัจจุบัน แก้ปัญหาวิกฤตรัฐธรรมนูญ คือ ให้คนดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง แต่กลับมีกระบวนการนี้กลับมาเพื่อทำให้เกิดวิกฤต ทำให้คนกระด้างกระเดื่อง ดังนั้น สว. ต้องอยู่เพื่อให้การดำรงอยู่ของกฎหมายเป็นไปอย่างผาสุข สงบเรียบร้อย ดังนั้นใครบังอาจที่บิดเบือน ฉ้อฉลต้องรับผิดชอบ
พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประะานวุฒิสภา เปิดประเด็นว่า เรื่องดังกล่าวโยงอยู่กับกระบวนการการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ความพยายามบางอย่างตนมองว่าไม่ค่อยปกติ ฉะนั้น จากนี้ไปสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่ง จะใช้กระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกันในการกล่าวโทษดำเนินคดีในประเด็นต่างๆ และจะลงชื่อกันอภิปรายไม่ไว้วางใจผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในประเด็นนี้ต่อไป