
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ช่วงนี้บรรยากาศการท่องเที่ยว เริ่มกลับมาคึกคัก ทั้งเส้นทางสายมู และเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์ก พญานาคริมฝั่งแม่น้ำโขง และองค์พระธาตุพนม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่เป็นเส้นทางศรัทธาสายมูพญานาค คือ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ถ้ำนาคี พื้นที่ท่องเที่ยว ที่เป็นที่สนใจของประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้ปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเป็นเวลา 1 เดือน และกลับมาเปิดให้ท่องเที่ยว ในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทำให้ มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวคึกคัก โดยเฉพาะช่วงวันหยุด โดยทางอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้เปิดบริการแบบวอล์คอิน สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน สามารถรองรับบริการได้เพียงพอวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ส่วนอัตราค่าบริการ ต่อคน มีค่าใช้จ่ายคนละ 30 บาท นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ไกด์อาสา คอยบริการ แนะนำเส้นทาง ส่วนค่าบริการแล้วแต่ความพอใจของประชาชน นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯคอยดูแล อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย ตลอดเส้นทาง คาดว่า จะคึกคักยาวไปถึงช่วงฤดูหนาว ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวในพื้นที่ เชื่อกันว่าไม่เพียงชมความสวยงาม ยังได้มากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เส้นทางสายศรัทธาพญานาคอีกด้วย
สำหรับ เทือกเขาภูลังกาเชื่อกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนานความเชื่อ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยป่าเขา มาแต่อดีต มีเนื้อที่มากกว่า 30,000 ไร่ ครอบคลุมเนื้อที่ ทอดยาวผ่านอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ทอดยาวไปยัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ในอดีตไม่เพียงเป็นเทือกเขาที่มีตำนานลี้ลับ ได้แก่ 1.ตำนานราชาที่ถูกสาปเป็นหิน 2.ตำนานแห่งดินแดนเมืองบังบด หรือเมืองลับแล 3.ตำนานเมืองพญานาค 4.ตำนานดินแดนประสูติพระเจ้า 5 พระองค์ 5.ดินแดนสนามรบกิเลสของเถราจารย์ชื่อดังหลายรูป 6.ตำนานอาถรรพ์อันศักดิ์สิทธิ์ และ 7.ดินแดนสมุนไพร ในเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์

ล่าสุด นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาด จ.นครพนม นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความพร้อม ประชาสัมพันธ์สถานที่สำคัญที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว คือถ้ำนาคี หลังมีเจ้าหน้าที่ รวมถึงนักสำรวจ มีการค้นพบ ความอัศจรรย์ของหินภูเขา ที่มีรูปร่างคล้ายเกล็ดงู ไม่แตกต่างจากถ้ำนาคาที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง อยู่ทางฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ แต่ส่วนถ้ำนาคี มีการสำรวจพบ ทางฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเป็นเขาลูกเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม หากจะเปรียบเทียบกันให้เข้าใจได้ง่าย คือ ทั้งสองถ้ำอยู่คนละฝั่ง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำนาคี ที่สำคัญยังความสวยงามไม่แพ้กันเลย อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องเล่า ความเชื่อของถ้ำทั้งสองแห่งนี้ คือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะมีรูปร่างลักษณะเป็นงูยักษ์มีเกล็ดหินสวยงามลงตัว คดเคี้ยวไปตามหุบเขา และบางจุดยังมีลักษณะคล้ายหัวงูยักษ์ กลายเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีเส้นทางไม่ไกล เดินเท้าจากที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูลังกา ประมาณ เกือบ 2 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เป็นเส้นทางผจญภัยเดินเลียบเลาะไปตามป่าเขา และปีนบันไดลิง ประมาณ 200 เมตร ก่อนขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาถ้ำนาคี ตลอดเส้นทางยังจะได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติดอกไม้ป่านานาพันธุ์

นอกจากนี้ ในเส้นทางเดียวกัน จะได้เห็นสายน้ำบางจุดไหลลอดใต้ก้อนหินไปโผล่อีกแห่งหนึ่ง ลักษณะคล้ายน้ำตก ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูลังกา นอกจากนี้จะมีหินลักษณะ คล้ายเศียร หรือหัวนาคี คล้ายพญานาคก้มหัวลงมาพ่นน้ำ อีกทั้งในเส้นทางยังจะได้ชื่นชมความสวยงามของผานาคี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก รวมถึงสามารถชื่นชมความสวยงามของ น้ำตกธรรมชาติ อาทิ น้ำตกไทรงาม น้ำตกผาสวรรค์ และ น้ำตกตาดโพธิ์ ที่ไหลลงจากภูลังกา สู่ลำห้วยหล่อเลี้ยงเกษตรกรปลูกพืชและชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภค ตลอดปี รวมมีจุดท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจ รวมถึง 9 จุด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 042 530 766
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม

