
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 09.30 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มประชุมเพื่อพิจารณาว่า จะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ หลังมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรม นูญ มาตรา 213 กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯรอบสองว่าขั ดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
สำหรับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเบื้องต้น จะออกได้ 3 แนวทาง คือ
1. ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง
2. ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ไม่มีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯ
3. ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯ ไว้ก่อน
อย่างไรก็ตามกรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเห็นว่า การดำเนินการให้ความเห็นชอบรายชื่อบุคคลเป็นนายกฯ เป็นการกระทำตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ใช่กรณีเสนอญัตติ ตามข้อ 41 เพราะการเสนอรายชื่อบุคคลได้รับการให้ความเห็นชอบนายกฯ กำหนดไว้เฉพาะตามรัฐธรรมนูญ และในข้อบังคับเป็นคนละหมวดกัน
ดังนั้น การดำเนินการของรัฐสภาในวันที่ 19 ก.ค. มีการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 172 และก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยหากปล่อยให้คัดเลือกเห็นชอบบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ดำเนินการต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ยากต่อการเยียวยา จึงมีมติขอให้ศาลกำหนดมาตรการวิธีการชั่วคราว โดยขอให้สั่งชะลอการให้ความเห็นชอบ บุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ออกไปก่อน
หลังจากนั้นวันที่ 25 ก.ค. 66 ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้อง พร้อมเอกสารประกอบคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านระบบงานคดีรัฐธรรมนูญอิเล็กทรอนิกส์(e-Filing) และต่อมาวันที่26 ก.ค.ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับคำร้องทางธุรการแล้ว โดย จากผลมติดังกล่าวของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีนี้ ส่งผลให้ประธานรัฐสภา เลื่อนการโหวตนายกฯรอบ 3 ในวันที่ 27 ก.ค. ออกไปก่อน เป็นวันที่ 4 ส.ค.นี้