
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการปราศรัยเวที จ.นครราชสีมา ที่เป็นบ้านเกิดของนายกฯ วันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้จะมีอะไรเซอร์ไพรส์นอกจาก “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” หรือไม่ ว่า อย่างน้อยได้ไปเยี่ยมบ้านเกิดของเราซึ่งนานมากแล้ว แต่ญาติพี่น้องก็ยังอยู่ที่นั่น ทั้งโคราชและชัยภูมิ พ่อเป็นคนกรุงเทพฯ แม่เป็นคนชัยภูมิ ไปรับราชการอยู่ที่โคราช ไปเกิดและไปโตที่นั่น ความผูกพันมีมาอยู่ตลอด คนเราต้องนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนด้วยใช่ไหม ถ้าจะให้นายกฯพูดวันนี้ วันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรสิ
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้พูดเป็นน้ำจิ้มก่อน เพราะชาวโคราชรอฟังอยู่ หรือจะพูดเป็นภาษาโคราชได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ภาษาโคราชหรอ “สบายดีเด้อ” ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้บอก นายกฯพูดว่าสบายดีแม่ะ ซึ่งแปลว่าสบายดีไหม นายกฯได้พยายามพูดตาม พร้อมกล่าวว่า “สบายดีไหม มันจะผสมกันหมดแล้ว”
เมื่อถามอีกว่าตอนลงพื้นที่ภาคใต้นายกฯได้พูดภาษาใต้ นายกฯกล่าวว่า เราก็เตรียมการเปิดหาข้อมูลมา ภาษาอีสาน ภาษาใต้ อ่านได้บ้างปนกันไปหมด วันนั้นก็ไปเด้อกับเขาด้วย ก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน จริงๆแล้วความผูกพันจิตใจมีมากอยู่แล้ว มีให้ทุกจังหวัด ที่ผ่านมาเราทำทุกจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด จะเห็นว่าหลายอย่างเกิดขึ้นมาเยอะแล้ว ที่ทำไปแล้ววันหน้าก็ให้เชื่อมต่อมากขึ้น
เมื่อถามว่า วันที่ 25 ก.พ.จะเปิดตัวผู้สมัครของพรรคทั้ง 132 เขตภาคอีสาน เลยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า พรรคเตรียมไว้แล้ว เมื่อถามว่าจะมีนโยบายเศรษฐกิจอะไรที่จะสู้กับพรรคอื่นบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คำว่าเศรษฐกิจต้องถามว่าคืออะไร การให้เงินอย่างนี้หรอ นี่ไม่ใช่นโยบาย
เมื่อถามว่านโยบายการหา เงินเข้าประเทศจะเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า นโยบายหาเงินเข้าประเทศจะใช้จ่ายอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ให้ทุกคนได้รับอย่างทั่วถึง ถ้าให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างนี้เรียกว่าไม่ถูกต้อง กลุ่มอื่นไม่ได้ ที่ผ่านมาเขาทำแบบนี้ตลอด ซึ่งตนอยู่มาไม่ได้ทำแบบนี้ แต่ตนทำให้ทุกคนได้เข้าถึงโอกาสดูแลความเป็นธรรมในการเข้าถึง คนรายได้น้อยจะสามารถดูแลอะไรได้บ้างเท่าไหร่ อะไรที่ให้ไปแล้วจะให้เพิ่มได้ไหม ซึ่งต้องคำนึงถึงรายรับรายจ่ายของประเทศด้วย มันต้องสมดุลกัน
เมื่อถามว่าล่าสุด นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาเสนอนโยบายด้านพลังงานน้ำมันได้ฟังหรือไม่ และคิดว่าจะทำได้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อ๋อ เขาพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องมาดูกติกา ดูกฎหมาย สัญญาอะไรต่างๆด้วย เพราะทุกอย่างเป็นสัญญา ถ้าจะทำอะไรก็ต้องไปแก้กฎหมายกันใหม่ตรงโน้น ดังนั้นเราต้องเริ่มต้นใหม่ ถ้าจะทำอะไรใหม่ๆก็ต้องทำให้ดี ของเดิมก็ต้องขอความร่วมมือกันบ้าง ช่วยเหลือกันบ้าง ก็พอได้ในตอนนี้
เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะสามารถลดราคาน้ำมันได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พูดอีกแล้ว รอดูแล้วกัน ไม่ต้องรวมไทยสร้างชาติหรอกในตอนนี้ นายกฯก็จะดูแลให้ มากน้อยก็เดี๋ยวดู ได้คุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ไว้แล้ว ในฐานะที่กำกับดูแลตรงนี้จะลดได้เท่าไหร่ อย่างไร แต่ต้องดูว่าจะมีปัญหาในภาพรวมหรือเปล่า แต่ยืนยันว่าจะมีการลดให้ ไม่ใช่การหาเสียงนะ เพราะตนพูดในนามของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า หลายพรรคมีนโยบายขายฝันจะทำได้มากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า พวกเราก็ตรวจสอบกันสิจ๊ะ ตรวจสอบดูว่าให้อะไรเท่าไหร่ หาตัวเลขมาว่าคนแต่ละกลุ่มใช้เงินเท่าไหร่ คูณตัวเลขมาว่าใช้เงินเท่าไหร่ พอเพียงหรือไม่ วันนี้งบประมาณรายรับเรามีเท่าไหร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงตรงนี้ปรากฎว่าขาตั้งไมโครโฟนของสื่อมวลชนได้เอนใส่มาที่หน้าอกของนายกฯ จึงทำให้นายกฯหยุดพูด แล้วพูดติดตลกว่า “ไอ้นี่พวกใครว่ะเนี่ย พวกเราหรอ กระแทกแบบนี้” จากนั้นนายกฯได้หยอกด้วยการดึงไมโคโฟนออกจากขาตั้งแล้วใส่กลับเข้าที่เดิม พร้อมกับกล่าวว่า อย่าถือสา แหย่เล่นกัน เรามันพวกเดียวกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่านายกฯจะปรับ ครม.หรือไม่ในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะปรับทำไมอีก เหลืออีกไม่กี่วัน จะปรับทำไม หลายพรรคก็บอกว่าไม่อยากปรับอะไรทั้งสิ้น ปรับมาก็ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเวลาของท่านแล้ว วันนี้แค่เก็บตกรายการที่ยังค้างครม.ก็ประชุมกันแย่แล้ว ซึ่งก็ต้องดูให้เกิดความเป็นธรรม ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ระมัดระวังอย่างที่สุด เรื่องการบริหารราชการนายกฯยึดถืออย่างเดียว ทุกอย่างต้องคำนึงถึงระเบียบกฎหมาย ทุกฉบับต้องโปร่งใสสุจริตเป็นธรรม ข้อสำคัญต้องตรวจสอบได้ ถ้าใครร้องเรียนมาต้องตอบว่าใครเป็นคนรับโครงการไป เพราะเป็นการอนุมัติใน ครม. ในหลักการออกไป คณะทำงานมีเยอะก็รับผิดชอบกันไปตามลำดับ นายกฯรับผิดชอบในฐานะนโยบาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับสื่อฯอย่างอารมณ์ดีในตอนท้ายว่า “ขอบคุณนะจ๊ะ เฮ้ย เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ” ผู้สื่อข่าวตอบว่า เจอกันที่โคราช นายกฯจึงกล่าวว่า ขอให้เดินทางปลอดภัยทุกคน ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าลงพื้นที่ นายกฯ ไม่ต้องใช้ภาษาอะไรหรอกใช้ภาษาใจก็พอ นายกฯ กล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า อะไรนะ ภาษาใจ เป็นอย่างไร พูดให้ดูหน่อย ผู้สื่อข่าวตอบว่านายกฯเคยพูดบนเวทีพบประชาชนว่าพูดออกจากใจ นายกฯกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า แสดงว่าฟังเหมือนกัน ก่อนเอามือตบไปที่หน้าอก พร้อมกล่าวอีกว่า ทุกอย่างใจถึงใจ ถ้าเราใจสัตย์ซื่อบริสุทธิ์ รักเขาจริง เป็นห่วงเขาจริง เราก็ต้องนำทางเขาในทางที่ถูกต้อง ตนยึดมั่นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่เป็นทหารก็เป็นอย่างนี้.-001