ร้องสื่อรพ.รัฐปฏิเสธรักษาทำให้พ่อตายเพื่อไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดสระเพลง ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา กำลังประกอบพิธีฌาปนกิจศพของนายสมพร  รัศมี อายุ 50 ปี ชาว สปป.ลาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของชาวบ้านที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะทางภรรยาและลูกสาวของนายสมพร ที่สวมชุดครุยของคณะวิยาการจัดการ เอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาร่วมพิธีฌาปนกิจผู้เป็นพ่อ ยืนกอดรูปร้องไห้เสียใจเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ น.ส.วรรณภรณ์  สีสม อายุ 25 ปี ลูกสาวนายสมพร เพิ่งเรียนจบและเตรียมเข้ารับใบปริญญาบัตรในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ นอกจากนี้ น.ส.วรรณภรณ์ เตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวเนื่องจากกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย แต่ทางนายสมพร ผู้เป็นพ่อนั้นมาเสียชีวิตอย่างกระทันหันไปเสียก่อนยังไม่ทันเห็นลูกสาวได้ใส่ชุดครุย ทางน.ส.วรรณภรณ์จึงสวมชุดครุยมาร่วมพิธีในครั้งนี้เพื่อให้พ่อใด้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจ

เหตุการณ์ในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางนายอธิบดี  ภัทรกวิน  อายุ 30 ปี ลูกเขยของนายสมพร ได้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชนหลังจากนายสมพรมีอาการป่วยและไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาจึงนำกลับมาที่บ้านอีกครั้งแต่เนื่องจากอาการไม่ดีขึ้นจึงได้ไปหาหมออีกครั้งจนอาการทรุดลงทางโรงพยาบาลจึงส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราช แต่กว่าจะไปถึงอาการของนายสมพรทรุดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายนายอธิบดีเล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า นายสมพรฯได้ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของคืนวันที่ 21 ก.ค.ด้วยอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก โดยไปยังห้องฉุกเฉินมีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 3-4 คน ในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลไม่เชื่อว่าทางนายสมพรมีอาการวิกฤติจริง ทางเจ้าหน้าที่เลยแจ้งว่าทางโรงพยาบาลรับเฉพาะกรณีที่ผู้ป่วยวิกฤติจริงเท่านั้น จีงทำอะไรไม่ได้ พร้อมให้กลับบ้านและปฏิเสธการรักษา แม้ทางครอบครัวได้ขอร้องให้ทางโรงพบาลรับนายสมพรเอาไว้เพื่อนอนรอดูสังเกตุอาการแต่ทางโรงพยาบาลได้ทำการปฏิเสธแลให้นายสมพรลงจากเปลผู้ป่วยให้มานอนตรงที่นั่งพักรอคิว ขณะนั้นทางนายสมพรอาการเริ่มทรุดหนักสังเกตจากสีหน้าเพราะไม่สามารถนั่งได้แล้ว พร้อมให้กลับบ้าน

ทั้งนี้ หลังจากกลับไปบ้านแล้วนายสมพรอาการไม่ดีขึ้นพร้อมกับทรุดหนักลงกว่าเดิมโดยอาเจียนเป็นเลือด ทางญาติจึงได้นำตัวนายสมพรไปยังโรงพยาบาลอีกครั้งตอนเวลา 06.00 น. กว่าจะได้รักษาก็เวลา 08.00 น.หลังจากไปรอบที่ 2 ทางหมอและพยาบาลก็ได้ตรวจร่างกายและอีกหลายอย่างก่อนที่จะเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น เกินความสามารถในการรักษาของโรงพยาบาลจึงได้มีการส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลมหาราช แต่กว่าจะมาถึงและเข้ารับการรักษาก็เป็นเวลา 11.00 น. ขณะกำลังรักษาอยู่ที่ รพ.มหาราชทางแพทย์และพยาบาลก็ให้การรักษาอย่างเต็มที่จนนายสมพรได้เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ก.ค. หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนตั้งคำถามถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐแห่งแรก เนื่องจากตนรู้สึกว่าการดูแลรักษาคนไข้นั้นไม่เต็มที่และมารยาทก็ไม่ดี ทั้งเรื่องการให้นายสมพรลงจากเปลไปนอนอยู่ที่นั่งรอคิว รวมไปถึงการตำหนิเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ทำไมถึงต้องให้ทางแม่ยายของตนวิ่งออกไปหาซื้อหน้ากากอนามัยทั้งที่ทางโรงพยาบาลน่าจะมีให้แค่ 1 ชิ้น ก็ให้ไม่ได้

นายอธิบดี เล่าต่อว่า ตนและครอบครัวของแฟนได้มีการเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาเพื่อให้เข้าตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากร้องเรียนไปไม่นานทาง ผอ.โรงพยาบาลได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางเยียวยาต่างๆ แต่พฤติกรรมของทางโรงพยาบาลไม่ใช่ เนื่องจากในวันเผา(28 ก.ค.) ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้ส่งตัวแทนมา รวมไปถึงพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้สึกรับไม่ได้กับเรื่องนี้และเตรียมที่จะดำเนินการให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก

ด้าน น.ส.วรรณภรณ์  สีสม อายุ 25 ปี ลูกสาวของนายสมพร เล่าให้ฟังว่า สาเหตุตนใส่ชุดครุยมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้พ่อเห็นเพราะพ่อยังไม่เคยเห็นตนใส่ชุดครุยสักครั้ง ตนจะเข้ารับปริญญาในวันที่ 21 ส.ค.นี้ และจะเข้าพิธีแต่งงานในช่วงปลายปีนี้แต่ทางพ่อไม่มีโอกาสได้เห็นแต่ต้องมาเสียชีวิตไปเสียก่อน ตนก็สงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ พ่อของตนไปรับการรักษาตอนตี 3 ทางเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธการรักษาพร้อมไล่กลับบ้าน ถ้าหากในวันนั้นเจ้าหน้าที่รับพ่อของตนไว้รักษาก็อาจทำให้มีโอกาสรอดชีวิตถึงแม้จะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากให้ทางโรงพยาบมลออกมาชี้แจงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่รับพ่อของตนไว้รักษาตั้งแต่แรกกระทั่งทรุดหนัก ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชแต่ก็สายเกินไปจนพ่อเสียชีวิตในที่สุด

Message us