
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีความพร้อมสำหรับการอำนวยความสะดวก ในการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมกันทั่วประเทศแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคมนี้ บนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality : Love Wins in 878 Districts)” รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานตามกฎหมายฉบับนี้ที่ประกาศใช้
นายคารม กล่าวว่า กรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนกลาง ได้เตรียมความพร้อมซักซ้อมการปฏิบัติกับสำนักทะเบียน และอำเภอ 878 แห่ง พร้อมทั้งสำนักงานเขต ใน กทม. 50 เขต รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่งซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568 ใน 4 ด้าน คือ
ด้านระเบียบ โดยได้ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย ทำให้คู่รักสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้ทราบสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวที่เท่าเทียมกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย
สำหรับ ด้านระบบ โดยได้มีการแก้ไขระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่า และมีการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านบุคลากร โดยได้จัดทำชุดความรู้และอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การปรับกรอบความคิดในการให้บริการประชาชน และการบริการที่เป็นสากลบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงมารยาทสากลและหลักสิทธิมนุษยชน
ด้านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Kick Off ในวันนี้ และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่ง ในวันที่ 23 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักตามแนวคิด “กรมการปกครองยินดีเป็นนายทะเบียนให้กับทุกความรัก”
“วันที่ 23 มกราคม 2568 นี้เป็นวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับ รัฐบาล โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พร้อมอำนวยความสะดวกให้คู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศเข้าจดทะเบียนสมรส เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม ความเสมอภาค และการไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติในฐานะประเทศที่ยอมรับและเคารพสิทธิมนุษยชน รวมถึงสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ เชิญชวนคู่รักทุกคู่เข้ารับบริการจดทะเบียนสมรสได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ” นายคารมกล่าว
ขณะที่ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 142 ตอนพิเศษ 13 ง ได้เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2568 เพื่อให้สอดรับกับการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ระเบียบฉบับดังกล่าว ระบุว่า โดยที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ได้แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้บุคคลสองคนไม่ว่าเพศใดสามารถทำการหมั้นหรือสมรสได้ และได้แก้ไขคำว่า ชาย หญิง สามี ภริยา และสามีภริยา เป็น บุคคล ผู้หมั้น ผู้รับหมั้น และคู่สมรส ซึ่งกระทบกับการปฏิบัติงานในการจดทะเบียนและบันทึกทะเบียนครอบครัว ประกอบกับเพื่อให้การปฏิบัติงานในการจดทะเบียนครอบครัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา25 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ จดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 รัฐนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกระเบียบไว้ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2568 เป็นต้นไป


