“รังสิมันต์”เผยมีคนกำลังดิสเครดิตกลุ่มทะลุวังและทำลายพรรคก้าวไกล

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลถูกกล่าวหา ว่า อยู่เบื้องหลังกลุ่มทะลุวัง ในฐานะนายประกัน ว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ถูกฝ่ายการเมืองมองว่าอยู่เบื้องหลัง แต่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาสังคม เพราะหลายครั้งที่พรรคก้าวไกลถูกปรักปรำ อะไรคือหลักฐาน และแม้เป็นนายประกัน แต่ต้องแยกออกจากการเคลื่อนไหวในที่ชุมนุม เพราะสามารถทำได้ตามกฎหมาย เพื่อให้สิทธิบุคคลเหล่านั้นในการต่อสู้คดี แต่ไม่ใช่ว่า เห็นด้วยกับการกระทำ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ความพยายามเชื่อมโยงระหว่างพรรคก้าวไกลกับกลุ่มทะลุวังนั้น คนไม่เห็นด้วยกำลังดิสเครดิตกลุ่มทะลุวัง และ ทำลายพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังใคร และไม่มีใครอยู่หลังเรา พรรคมีจุดยืนเรื่องสิทธิเสรีภาพและการแสดงความคิดเห็น แต่ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง เพราะเป็นการสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว อย่างที่ประเทศไทยมีบทเรียนมาแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับการกระทำของน.ส.ทานตะวันใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ต้องแยกก่อนว่า การกระทำของทานตะวันที่สร้างเสียงวิจารณ์ คงสรุปยากว่า ถึงที่สุดสังคมจะเห็นไปเป็นทิศทางไหน และต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่ามีทั้งผู้ที่ไม่เห็นด้วยและเห็นด้วยกับการกระทำที่ทานตะวันที่แสดงออก ดังนั้นการอารักขาบุคคลสำคัญยังคงต้องมี แต่เห็นว่าทั้งหมดทั้งมวลนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ได้ และจุดยืนของพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงการพุ่งเป้าวิพากษ์วิจารณ์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลว่า ไม่ใช่ครั้งแรก แต่พรรคพยายามให้สติกับทุกคน และเห็นด้วยกับนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัย เพราะเป็นการใช้พื้นที่ทางการเมือง เพื่อหาทางออกโดยการพูดคุย ดีกว่าไปบนท้องถนน ซึ่งมีอัตรายและไม่คุ้ม พร้อมยกตัวอย่าง 1 กลไกทางออก คือ การนิรโทษกรรม ที่สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาแล้ว

ส่วนที่ สว. ขอให้พรรคก้าวไกลยุติการแก้ไข และการนิรโทษกรรม ซึ่งจะส่งผลต่อแนวคิดของคนรุ่นใหม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงในเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่นโนบายเดียวที่ได้หาเสียงไว้ ย้ำว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจุดยืนคือต้องมาดูปัญหาของประเทศชาติ พร้อมตั้งคำถามอีกว่า คนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 นั้น ควรทำอย่างไร ให้คนเหล่านั้นรู้สึกว่าได้รับความยุติธรรม และให้บ้านเมืองดีขึ้น

Message us