“รังสิมันต์”จี้ขุดรากถอนโคนไทยเทาหยุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำกมธ.ไปสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลกระบวนการส่งออกสินค้าที่ท่า 34 ท่าศาลเจ้า ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยท่าศาลเจ้านี้เป็นหนึ่งในท่าที่ใหญ่ที่สุดในแม่สอด และเป็น 1 ใน 3 ท่า ที่มีศักยภาพในการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสายส่ง แต่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการงดส่งน้ำมันเพื่อตัดกำลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า สิ่งที่พอจะยืนยันได้คือการตัดน้ำมัน วันนี้ตัดสำเร็จอยู่ น้ำมันไม่ได้ถูกส่ง เจ้าของท่าก็ยืนยัน เรามีข้อมูลท่าที่ต้องจับตามอง มีขนาดท่าที่หลากหลาย แต่ยังเปิดเผยข้อมูลแต่ละท่าไม่ได้ โดยฝ่ายความมั่นคงก็จับตามองเพราะมีข้อมูลเช่นกัน ของบางอย่างอาจไม่ผิดกฎหมายประเทศไทย แต่อาจถูกนำไปใช้เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เติบโต อาจเป็นได้ตั้งแต่โซลาร์เซลล์ สตาร์ลิงก์ แม้กระทั่งปูนซีเมนต์ ดังนั้นการที่เราจะหยุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่การดูว่าสิ่งที่ส่งไปนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ต้องดูไปถึงรายละเอียดว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เอาสิ่งเหล่านั้นไปใช้เพื่อให้ตัวเองใหญ่โตขึ้นหรือมีศักยภาพในการหลอกคนอื่น นอกจากนี้เมื่อวานเราได้รับข้อมูลว่าอาจมีเคมีภัณฑ์ที่ถูกส่งออกที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด อาจมีจำนวนสูงถึง 800 ตัน

เมื่อถามว่า ผู้แทนจากทางการจีนเข้าไปจัดการปัญหาในฝั่งเมียนมาเอง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจข้อกังวลของทางการจีนและทางการจีนก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง แต่ตนก็เชื่อว่าไทยมีศักยภาพในการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยตนเอง เราอาจจะมีความร่วมมือกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐ สหภาพยุโรป ดังนั้นรูปแบบความร่วมมือควรจะเป็นการประสานงานส่งข้อมูล แต่ประเทศไทยเป็นผู้นำในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งการคัดกรองว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าไม่ดำเนินการอะไรเลยแล้วส่งตรงไปเลย คงจะเป็นปัญหาในแง่ความมั่นคง จำเป็นที่ไทยต้องเก็บฐานข้อมูล อย่าลืมว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ไทยเป็นทางผ่าน มีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือหรือไม่ ดังนั้นต้องถอนรากถอนโคน จากบรรดาทั้งเหยื่อทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อจัดการไทยเทา และอย่าลืมว่าไม่ใช่แค่เมียวดี ยังมีอีกหลายจุด บางจุดมีผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือคนไทย เช่น ปอยเปต รัฐบาลไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับทางกัมพูชา ควรใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชาด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้เราเห็นทิศทางที่ดีในฝั่งเมียนมา จากข้อมูลที่ได้รับทราบจากหน่วยงานความมั่นคง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียนมาจะมีน้ำมันดำรงได้อีกไม่เกิน 30 วัน ถ้าเกินกว่านั้นก็ต้องไปดูว่ามีการลักลอบหรือไม่ เพราะเราก็มีข้อมูลเหมือนกันว่ามีความพยายามในการลักลอบเช่นกัน หน่วยงานความมั่นคงต้องสร้างความมั่นใจว่าการลักลอบส่งน้ำมันจะไม่เกิดขึ้น แต่ทั้งหมดนี้เราจะดูแค่ฝั่งเมียนมาไม่ได้ ต้องดูทั้งกัมพูชาและลาวด้วย

นายรังสิมันต์ ฝากถามไปถึง รมว.ยุติธรรม ว่าตกลงการออกหมายจับหม่องชิตตู ถึงไหนแล้ว เพราะทั่วโลกก็เห็นอยู่ว่าเกี่ยวข้องกับความผิดหลายอย่าง ประเทศไทยเก็บและมีข้อมูลมาตลอดว่าหม่องชิตตูเกี่ยวข้องกับการก่อกรรมทำเข็ญคนจำนวนมากมายแค่ไหน และอยู่ๆ ถ้าจะไม่สามารถออกหมายจับ เรื่องนี้ตนคิดว่าจะทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศอื่นที่มองมายังประเทศไทยแน่นอน ดังนั้นตนมองว่าการออกหมายจับส่งผลสำคัญต่อความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย

Message us