
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับจังหวัดและระดับประเทศทุกปี และมีการเสนอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก)
น.ส.เกณิกา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเสนอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติและได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกแล้ว 4 รายการ ได้แก่ โขน นวดไทย โนรา และ ประเพณี “สงกรานต์ในประเทศไทย” ในปีนี้มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย 2 รายการ ได้แก่ “ต้มยำกุ้ง”และชุด “เคบาย่า” ซึ่งชุด“เคบาย่า” ประเทศไทยได้เสนอร่วมกับมาเลเซีย บูรไนดารุสซาลาม อินโดนีเซียและสิงคโปร์ จะเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 วันที่ 2-7 ธันวาคม 2567 ณ สาธารณรัฐปารากวัย และได้เสนอ“ชุดไทย” และ“มวยไทย” รวมทั้ง “ผ้าขาวม้า”เพื่อเข้าสู่การพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกด้วย
“กรมส่งเสริมวัฒนธรรมเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสที่ต้มยำกุ้งและชุดเคบาย่า ได้เข้าสู่การพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกในปีนี้ รวมถึงจัดทำแผนล่วงหน้า 10 ปี ในการเสนอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ก็ให้จัดทำรายละเอียดทั้งประเภทและระยะเวลาดำเนินการ เพื่อส่งเสริมมรดกทางศิลปวัฒนธรรมและ Soft Power ด้านต่างๆของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายระดับนานาชาติ” น.ส.เกณิกากล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการส่งเสริม Soft Power นำมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เช่น อาหารไทย งานหัตถกรรม งานเทศกาลประเพณีมาสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ประชาชนและชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ Soft Power ด้านต่าง ๆ ของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายระดับนานาชาติ