เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าเยี่ยมชมกองอำนวยการประกวดมะขามหวานเพชรบูรณ์ ในงานกาชาดมะขามหวาน นครบาลเพชรบูรณ์ ประจำปี 2566 ภายหลังร่วมชิมมะขามหวานที่เกษตรกรส่งเข้าประกวด ปรากฏว่าพบเห็นมะขามหวานเป็นเชื้อราปะปนรวมอยู่ด้วย จึงสอบถามคณะกรรมการฯ ซึ่งมีนักวิชาการและเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ช่วยชี้แจงอธิบายถึงสาเหตุทำให้มะขามหวานเกิดเชื้อรา กระทั่งถูกเกษตรกรคัดทิ้ง ขณะเดียวกันผู้บริโภคเกิดความรังเกียจและยังมองว่า หากกินมะขามหวานเป็นราเข้าไป จะก่อให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะสารก่อมะเร็งเฉกเช่นเชื้อราอื่นๆ
นายเทพ เพียมะลัง นักวิชาการและกรรมการตัดสินมะขามหวาน ชี้แจงว่า สาเหตุทำให้มะขามเกิดเชื้อรามีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย โดยส่วนใหญ่เกิดจากความชื้น ทำให้เกิดจากสภาวะไม่เหมาะสม อาทิ ความชื้นในดิน ความชื้นในอากาศ รวมทั้งปริมาณน้ำฝน สมมุติหากฝนตกวันนี้อากาศนิ่งสนิทไม่มีลมไม่มีแดด มะขามมีโอกาสเป็นราสูงมาก แต่หากฝนตกแต่มีลมโกรกแรง มีแสงแดดจัดไม่มีผลต่อมะขาม
นายชัชวาลย์ ได้ซักถามด้วยความสงสัยว่า “ราที่เกิดจากมะขามหวานเป็นราที่กินได้จริงหรือไม่ และเมื่อเห็นมะขามเป็นรา ทุกคนพากันยี้และทิ้งเป็นของเสีย” นางนันทพร ทองอินทร หัวหน้ากองอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้แจงว่า “ราที่เกิดจากมะขามหวานเป็นราสีขาวกินได้ไม่เป็นโทษ ไม่ใช่ราดำที่มีผลกระทบต่อร่างกาย” รองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ถึงกับกล่าวย้ำว่า “กินได้ไม่เป็นโทษ แต่ทุกคนไม่รู้ พอเห็นมีราทิ้งเลย มองเป็นของไม่ดี แบบนี้ต้องไปสร้างความเข้าใจอีกมากเลย”
“เอาอย่างนี้ในคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เตรียมมะขามที่เป็นราไว้ เดี่ยวผมกินโชว์เลย จะได้เห็นภาพมันคือราดี แล้วเอาราที่ไม่ดีมาดูด้วยเกษตรจังหวัดรับผิดชอบด้วย ไปหาราดีและราไม่ดี จะได้ไปโฆษณาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ว่า ราดีแบบนี้กินได้มันไม่มีโทษ เพราะคนตีความหมายเชื้อรามันคือไม่ดีกินไม่ได้ เป็นโจทย์ที่เราต้องไปสร้างความเข้าใจ ผมจะกินโชว์เลย “นายชัชวาลย์กล่าว
ข่าว/ภาพ : สุนทร คงวราคม ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์
