
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ต.ค. เวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้พบร่างนายพัชรพล คำสี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 7 ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นคราชสีมา นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน สภาพศพสวมเสื้อคอกลมสีเหลือง มีเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ ปักโลโก้ ของบริษัทชื่อดังสวมคลุมทับ สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าบูธ สภาพเนื้อตัวเปรอะเปื้อน ฝุ่น โคลน ทั่วร่างกายและมีคราบเลือกที่แห้งเกรอะกังตามใบหน้าและเนื้อตัว

ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลแตกจากการถูกของมีคมที่ศีรษะยาวประมาณ 10 ซม. มีบาดแผลฉีกขาดคล้ายถูกของมีคมเป็นบาดแผลฉกรรจ์ลึกเห็นกระดูกที่บริเวณนิ้วมือข้างซ้ายจนนิ้วห้อยและบริเวณหน้าแขนข้างขวามีแผลถูกของมีคมบาดเป็นขนาดใหญ่ บริเวณพื้นถนนและแท่งบริเออร์ยังพบรอยเลือดหยดอีกหลายจุดใกล้กันพบไม้เปื้อนเลือดยาวประมาณ 45 ซม. ตกอยู่ใกล้ร่างผู้เสียชีวิต ตรวจสอบในกระเป๋ากางเกงผู้เสียชีวิต พบลูกกระสุนปืนขนาด .38 มม. จำนวน 3 นัดในกระเป๋ากางเกง ภายในกระเป๋าเป้ของผู้ตายยังพบพระเครื่อง หนังสือเดินทางจำนวน 3 เล่ม และเอกสาร สำเนาบัตรประชาชนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 ต.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุจำนวน 2 ราย “บังฟัต” หนึ่งในผู้ก่อเหตุ (คนฟัน) เปิดเผยว่า ในระหว่างที่ตนกำลังนั่งเล่นอยู่กับนายอ๊อฟภายในบ้าน 2 คน จู่ๆ นายพัชรพล (ผู้ตาย) ได้ถือมีดบุกเข้ามาอาละวาดคนในบ้าน แพยามไล่ทำร้ายตนกับนายอ๊อฟ จึงทำให้นายอ๊อฟ โดนมีดฟันที่บริเวณนิ้วมือข้างซ้ายจนเกือบขาด ด้วยความตกใจและโมโห ตนจึงคว้าเหล็กแป๊บและจอบวิ่งไล่ผู้ตายออกจากบ้าน เพราะกลัวจะไปทำอันตรายคนอื่น และด้วยความโมโหตนจึงวิ่งไปทำร้ายนายพัชรพล บริเวณริมถนนซ้ำอีก มีเจตนาที่จะให้ผู้ตายวางมีดลงในขณะนั้น เมื่อวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุ นายนายพัชรพล ยังไม่มีการปล่อยมีดในมือ ตนจึงใช้จอบที่ถือมาฟาด พร้อมกับหยิบเศษแท่นปูนขว้างใส่ผู้ตาย ก่อนจะพากันเดินกลับบ้านไป และไปโรงพยาบาล ตนไม่ทราบว่านายพัชรพลจะเสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่า ตนเป็นผู้ทำร้ายนายพัชรพลเพียงคนเดียว นายอ๊อฟไม่เกี่ยวข้อง

ด้าน นายอ๊อฟ ผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตนถูกนายพัชรพล ใช้มีดฟัน จนได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า ได้มีการวิ่งไล่ตามนายพัชรพล ออกมาจากอู่รถ เพื่อต้องการที่จะให้ออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตราย ตนไม่ได้มีการทำร้ายนายพัชรพล แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า มีการวิ่งออกไปจริง

ด้าน พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ปฏิบัติราชการแทน ผกก.สภ.พระประแดง กล่าวว่า หลังจากนี้ ทางเจ้าที่ตำรวจจะต้องมีการตรวจสอบว่า ผู้ตายมีการบุกเข้าไปทำร้าย หรือมีอาการเมาคุ้มคลั่งจากเหตุใด จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นให้การยอมรับสารภาพทุกอย่าง โดยมีการอ้างว่า ผู้ตายได้มีการบุกรุกและพยามจะทำร้ายร่างกาย หลังจากนี้ทางเจ้าที่ตำรวจจะมีการสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องแยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่ผู้เสียชีวิตบุกเข้าไปก่อเหตุภายในบ้านกับกรณีที่ผู้ก่อเหตุมีการไล่ทำร้าย เบื้องต้นทางเจ้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุในข้อหาฆ่าผู้อื่น
ข่าว/ภาพ : สมภพ สนเวส ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ