รวบ”เหน่ง ตาเดียว”ตระเวนลักเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าทั่วกรุง

เมื่อวันที่ 26 มกราคม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 , บก.สส.บช.น. และ ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน สืบสวนจับกุม นายรุ่งโรจน์ ละออแช่ม หรือ เหน่งตาเดียว อายุ 37 ปี กล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ได้ที่ บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในบริเวณวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. นายวีรยุทธ นนท์ปาน หรือแจ็ค อายุ 32 ปี ข้อหา “รับของโจร” ได้ที่ริมถนนในซอยจรัญสนิทวงศ์ 28/7 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.และตรวจยึดของกลาง 5 รายการ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.บางรัก สน.พลับพลาไชย 2 สน.บางบอน และ สน.ตลิ่งชัน

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติที่ติดไว้อยู่ตามสถานที่สำคัญต่างๆในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยวันที่ 24 ม.ค. เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเครื่อง AED ตรวจสอบพบว่าถูกขโมยไปหลายเครื่อง ป็นที่เดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช จัดตั้ง ศปก. ที่ บก.สส.บช.น. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไป

ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบว่านายรุ่งโรจน์ อดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อยโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ ประกาศขายเครื่อง AED ในราคาที่ต่ำผิดปกติ จึงสืบสวนจนทราบที่พักอาศัยต่อมาวันที่ 25 มกราคม พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 , ชุดสืบสวนนครบาล และฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ตรวจสอบบ้านพักภายในซอยวัดไก่เตี้ยพบนายรุ่งโรจน์ ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าตระเวนลักเครื่อง AED ตามที่ต่างๆในกทม.ไปแล้วกว่า 6 เครื่อง แต่ได้จำหน่ายออกไปจนหมด

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ทั้ง 6 เครื่องขยายผลทราบว่าถูกนำไปขายให้กับนายวีรยุทธ เจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อยเช่นกัน เครื่องละ 12,000 บาท จึงนำกำลังไปตรวจสอบนายวีรยุทธฯ และพบว่าเครื่อง AED ถูกขายต่อไปให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพื้นที่อื่นๆ กระจายทั่วกรุงเทพและปริมณฑลในราคา 13,000-15,000 บาทต่อเครื่อง ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเครื่อง AED จนติดตามรวบรวมกลับมาได้กว่า 5 เครื่องหลังเสร็จสิ้นการขยายผลนำตัวนายรุ่งโรจน์และนายวีรยุทธ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ชั้นจับกุมนายรุ่งโรจน์ รับสารภาพทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระอยู่ละแวกเขตบางกอกน้อย ขณะทำงานกู้ภัยพบเห็นเครื่อง AED ติดอยู่ทั่วไป

สำหรับ เหตุจูงใจแรกเริ่มก่อเหตุเพราะต้องการเงินเพื่อนำไปใช้ซ่อมรถที่จอดเสียซึ่งครั้งแรกแอบไปลัก 1 เครื่องย่านวัดเทพศิรินทร์ นำไปขายพบว่าราคา 15,000 บาท เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆไป จึงตระเวนลักเรื่อยมาโดยทั้งหมดยอมรับว่าลักมาแล้ว 6 เครื่อง โดยจะให้นายวีรยุทธ เป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกันช่วยหาคนซื้อ หากหาได้จะแบ่งให้เครื่องละ 3,000 บาท ชั้นจับกุมนายวีรยุทธ ให้การว่า เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอิสระ อยู่ย่านเขตบางกอกน้อย และรู้จักกับนายรุ่งโรจน์ มาประมาณ 4 ปี ต่อมาประมาณกลางเดือนธันวาคม 2565 ติดต่อกับนายรุ่งโรจน์ ทางเฟซบุ๊ก โดยตกลงให้ตนขายเครื่อง AED ให้ก็สอบถามนายรุ่งโรจน์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นของที่ขโมยมา แต่ก็ยังสงสัยเพราะราคาที่ซื้อขายนั้นต่ำกว่าราคาจริง เมื่อขายได้นายรุ่งโรจน์จะแบ่งให้เครื่องละ 3,000 บาท โดยขายเครื่อง AED มาแล้ว 6 เครื่อง

พล.ต.ต.ธีรเดช ยืนยันว่า จากคำให้การผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ามีการขโมยแค่ 6 เครื่อง เนื่องจากยังพบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายแห่งในพื้นที่ที่ถูกขโมยไป ตอนนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และ พล.ต.ท.ธิติ สั่งการให้จัดตั้ง ศปก. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไปกลับคืนมา เนื่องจากอุปกรณ์ AED ดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ไว้ใช้ช่วยเหลือชีวิตของประชาชน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

Message us