เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการ “เวทีร่วมคิด ร่วมสร้าง สานพลังสตรี 4 ภาค: เดินหน้าขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีสู่ความยั่งยืน” โดยมี นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน นางวจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมคณะ ให้การต้อนรับยังมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ณ โรงแรมทวินโลตัส อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเกิดขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2555 จากความตั้งใจของท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยต้องการให้สตรีได้รับการยอมรับ ได้มีโอกาสมายืนแถวหน้าของสังคม และได้เป็นส่วนนำของครอบครัว โดยปัจจุบันกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอยู่ในการกำกับดูแลของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย มีสมาชิกประเภทบุคคลธรรมดากว่า 17 ล้านคน และสมาชิกประเภทองค์กรกว่า 83,405 องค์กร ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะพัฒนาต่อยอดกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้ทันสมัย ส่งเสริมสมาชิกสตรีให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ มีเงินทุนสําหรับพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมบทบาทขององค์กรสตรี พัฒนาส่งเสริมอาชีพ ร่วมกับ การเสริมสร้างวินัยทางการเงินแก่สมาชิกสตรี สร้างความมั่นคงทางรายได้แก่ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แนะนำโครงการ OFOS (One Family One Soft Power) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจะยกระดับทักษะคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน สร้างรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างอุตสาหกรรมให้เติบโต สร้างเงินเข้าประเทศมหาศาล และสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำของโลกด้านซอฟท์พาวเวอร์ โดยจะเฟ้นหาศักยภาพของคนไทยทุกครอบครัว อย่างน้อยครอบครัวละ 1 คน เพื่อนำมาส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองในทุกด้าน ไม่ว่าทักษะด้านการทำอาหาร ร้องเพลง ออกแบบ ศิลปะ กีฬา และอื่นๆ
“ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจผลักดันกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เป็นแหล่งทุนที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงเรา สามารถที่จะสวยและเก่งไปพร้อม ๆ กันได้ อย่าหยุดฝัน อย่าหยุดสร้าง ต้องทำตลอดเวลา ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ควรจะต้องได้รับการดูแล โดยเฉพาะสตรี รวมถึงเพศทางเลือก จะต้องได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
