รณรงค์สุขภาพดีผู้หญิงไทยรู้สัญญาณเตือนภัยโรคช็อกโกแลตซีสต์

บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ร่วมกับโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานเสวนา “เช็กก่อนช็อก (โกแลตซีสต์) ปวดท้องน้อยไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย” ณ โถงกิจกรรมโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ซึ่งเดือนมีนาคมของทุกปีถือเป็นเดือนแห่งการตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

การจัดงานเสวนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Understanding: MOU) ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับบริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด เมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษา และเพื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้หญิงตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพของตนเอง และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

งานเสวนาได้รับเกียรติจาก นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และ ผศ.พญ ปานียา สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวเปิดงาน และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ผศ.พิเศษ พญ.สาวิตรี สุวิกรม หัวหน้ากลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และ ผศ.พิเศษ พญ.ปิยธิดา ทองรอง กลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เป็นผู้ให้ความรู้

โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เกิดจากภาวะประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้อง ซึ่งประจำเดือนเหล่านี้มีเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ด้วย เมื่อไปเกาะอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งก็อาจเจริญเติบโต เกิดเป็นพังผืด อาทิ สะสมอยู่ในรังไข่จนเกิดเป็นก้อนสีดำคล้ำ คล้ายช็อกโกแลต จึงมักเรียกกันว่า ‘ถุงน้ำช็อกโกแลต’ หรือ ‘ช็อกโกแลตซีสต์’

ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรสังเกตอาการตัวเอง

สัญญาณเตือนภัยของโรคที่ผู้หญิงควรสังเกตตนเอง ได้แก่ 1) ปวดท้องประจำเดือนที่มากกว่าปกติ มีอาการปวดขณะมีประจำเดือนและปวดมากขึ้นเมื่อมีประจำเดือน และอาจรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในรอบเดือนถัด ๆ ไป 2) ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยจะมีอาการเจ็บลึก ๆ ระหว่างหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ 3) ปวดอุ้งเชิงกราน โดยมีอาการปวดขณะไม่มีประจำเดือน และมีอาการปวดเรื้อรังผิดปกติ 4) ประสบภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากโรคนี้มักจะทำให้เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน บางรายเป็นมากจนทำให้เกิดการอุดตันของท่อนำไข่ทั้งสองข้าง ไม่สามารถมีบุตรเองได้โดยวิธีธรรมชาติ

อาการปวดท้องประจำเดือนนับเป็นหนึ่งความทุกข์ของผู้หญิงไม่เพียงทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง แต่ยังกระทบต่อหน้าที่การทำงาน หรือการเรียน แม้กระทั่งพลาดโอกาสที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการได้ ดังนั้น หากพบอาการเหล่านี้ ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงควรรีบปรึกษาสูตินรีแพทย์และเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และไม่ต้องกังวลกับการตรวจ เพราะการวินิจฉัยโรคช็อกโกแลตซีสต์ทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การซักประวัติ รวมไปถึงการตรวจร่างกายและการตรวจภายใน หรือการทำอัลตราซาวด์มาประกอบการวินิจฉัยเพิ่มเติม เพื่อประเมินขนาดและตำแหน่งของโรค

วิธีการรักษา
สิ่งสำคัญคือการได้รับการวินิจฉัยที่เร็ว ก็จะได้รับการรักษาที่เร็วไปด้วย ซึ่งแนวทางการรักษาโรคช็อกโกแลตซีสต์ในปัจจุบันหลัก ๆ การรักษามีอยู่ 3 แนวทาง ได้แก่ 1) การรักษาด้วยยา 2) การรักษาด้วยการผ่าตัด และ 3) การรักษาร่วมกันระหว่างการให้ยาและการผ่าตัด ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันการเกิดโรคนี้ ดังนั้น หากมีอาการที่สงสัยควรรีบปรึกษาสูตินรีแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโรค ทั้งนี้สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดไปแล้ว ก็ยังมีโอกาสการกลับเป็นซ้ำได้ ดังนั้นแพทย์จะเป็นผู้วางแผนการรักษาเพื่อช่วยป้องกันการเกิดการกลับเป็นซ้ำของโรคได้ในระยะยาว สำหรับผู้ที่มีอาการและสงสัยว่าจะเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ สามารถมาตรวจรักษาได้ที่ ห้องตรวจผู้ป่วยนอกนรีเวชกรรม ชั้น 3 อาคาร 72 พรรษา มหาราชินี โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น. วันจันทร์ – ศุกร์ เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ โทร. 02 2897000 ต่อ 7037 และ 7596

Message us