
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้รับทราบรายงานจากนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กรณีเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 ชุดสืบสวนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าจับกุมนายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ปกครอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้กำชับให้กรมการปกครองในฐานะต้นสังกัดดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และหากการสืบสวนพบว่า เป็นการกระทำความผิดจริง ให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุด อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งให้นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ มาช่วยราชการเป็นการประจำ ณ วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 68 เป็นต้นไป และผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปกครองที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มาช่วยราชการ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดกระบี่ พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมการปกครองได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเร่งรัดดำเนินการสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน และสำหรับในชั้นของพนักงานสอบสวน ข้าราชการทั้ง 2 ราย อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย
“รมว.มหาดไทย ให้ความสำคัญและมีนโยบายที่ชัดเจนในการดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตทุกประเภท และได้กำชับให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ถือปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว อย่างเคร่งครัด โดยหากพบการกระทำการอันเป็นการทุจริตทั้งต่อหน้าที่ และการสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ต้องได้รับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด”โฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าว