
พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร , นายพิศ วิริยะอารีธรรม ประธานสภา อบจ.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจหมออนามัยและพี่น้อง อสม. ที่ รพ.สต.ท่าบัว อ.โพทะเล พบเจอนวัตกรรมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยพื้นบ้าน “บ่งต้อด้วยหนามหวาย” ที่อยากเผยแพร่และอยากเชิญชวนให้เป็นทางเลือกทางรอดของผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพดวงตาที่เป็น ต้อหิน ต้อลม ต้อกระจก ตาพร่ามัว จอประสาทตาเสื่อม ตาเบลอมองเห็นไม่ชัด น้ำตาไหลมาก ตาแห้ง ปวดตา ที่เกิดจากปัญหาต่างๆ

น.ส.พจนีย์ กลแกม “หมอใหม่” แพทย์แผนไทยปฏิบัติการผู้ ทำหน้าที่รับรักษาผู้มีปัญหาด้านดวงตาด้วยการบ่งต้อด้วยหนามหวาย เล่าว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการบ่งต้อจะเลือกใช้หนามหวาย คือ หวายขม ที่ปลูกตามเนินเขาจาก จ.สกลนคร เอกลักษณ์ของหนามหวายที่นี่ คือ ก้านจะใหญ่ ปลายหนามแข็งแรงกว่าหนามหวายของที่อื่นๆ อีกทั้งหนามหวายของ จ.สกลนคร ก็มีความแหลมคมไม่มาก หากใช้หนามที่แหลมคมมากเกินไปจะทำให้ใยขาดง่าย

ทั้งนี้ หนามหวาย มีสรรพคุณทางยาตามคัมภีร์วิถีกุฏฐโรคที่บันทึกไว้ว่า “หนามหวายขมใช้รักษาโรคผิวหนัง เพราะมีรสขมและเย็น ช่วยลดอาการอักเสบได้” และมีรูปทรงกรวย เหมาะต่อการดึงเส้นใยออกมาได้ง่าย หลังจากการคัดเลือกแล้ว จะนำมาล้างทำความสะอาดและนึ่งฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาทำหัตถการ

ก่อนทำการบ่งต้อ “หมอใหม่”จะแจ้งให้ผู้เข้ารับการรักษาเตรียมของไหว้ครู ได้แก่ กล้วยน้ำว้าดิบ หรือห่าม 1 หวี เทียนน้ำมนต์ 1 เล่ม และเงินไหว้ครู 12 บาท สำาหรับ 1 คอร์ส จะทำการรักษา 3 วันติดต่อกัน โดยจะหยุดทำการรักษาในวันพระ และจะไม่ทำในวันที่ไม่มีแสงแดด รวมถึงจะไม่ทำในช่วงเวลาเที่ยงวัน
สำหรับ ข้อห้ามช่วงการรักษาระหว่างการบ่งต้อ คือ ผู้ที่มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและมีอาการหน้ามืดใจสั่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ผู้ที่เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลัน และหญิงตั้งครรภ์

นอกจากนี้ที่ รพ.สต.ท่าบัวยังมีบริการ “นวัตกรรมยาพอกตา สูตรยารสเย็น” ที่ใช้ผงฟ้าทะลายโจรและผงบอระเพ็ด รวมถึงสมุนไพรไทยที่เป็นสูตรลับเฉพาะเพื่อช่วยดูแลสุขภาพของดวงตาได้อีกด้วย
รพ.สต.ท่าบัว เปิดบริการบ่งต้อด้วยหนามหวาย ทางเลือกใหม่ของการรักษา ด้วยคุณค่าศาสตร์แพทย์ไทยประยุกต์ หนึ่งเดือนจะเปิดให้บริการ 1 ครั้งๆละ 3 วัน สนใจดูรายละเอียดและจองคิวผ่านเฟซบุ๊ค รพ.สต.ท่าบัว หรือโทร 086-4402357 ในวันและเวลาราชการเท่านั้น
ข่าว/ภาพ : สิทธิพจน์ เกบุ้ย ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิจิตร
