เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่อาคารร้างตั้งอยู่บนพื้นที่สูงติดกับถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) เส้นทางขาออก เนื่องจากเกิดฝนตกหนักและดินสไลด์ลงมาเป็นระยะมีความเสี่ยงที่จะพังถล่มลงมา โดยก่อนหน้านี้มีการปิดถนนขาออกเส้นทางดังกล่าว โดยงานจราจรสภ.เมืองภูเก็ตทำช่องทางพิเศษชั่วคราวให้วิ่งสวนเลนตั้งแต่จุดกลับรถศรีสุชาติไปจนถึงจุดกลับรถเอาท์เล็ท มีการวางกรวยตลอดเส้นทาง และทางแขวงทางหลวงภูเก็ตได้ทำการขุดดินบริเวณในพื้นที่เพื่อเปิดร่องน้ำที่ไหลลงจากภูเขาให้ไหลลงข้างล่างต่อไปได้
นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า บริเวณถนนบายพาสขาออก ที่ต่อมาจากถนนเจ้าฟ้าตะวันตก เป็นถนนที่ตัดผ่านภูเขาลาดชันสูง เดิมมีเพียงเส้นเดียวและทำเป็นเส้นคู่ขนานปรากฎว่าชิดเข้ามาอยู่ในแนวเชิงเขามากขึ้น การสัญจรผ่านถนนเส้นนี้จะมีบางจุดดินสไลด์เนื่องจากอยู่ใกล้กับเขานางพันธุรัตน์ ซึ่งเนินดินเชิงเขาที่โดนฝนติดต่อกัน 3 วันแล้วดินจะอ่อนตัวและร่วงลงมาเป็นแบบนี้โดยทั่วไป ขณะนี้จุดที่ดินสไลด์ลักษณะนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม เป็นต้นมา รวม 18 แห่งแล้ว มองว่า ถ้าการแก้ไขปัญหาตอนนี้ป้องกันความเสียหายจากชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอันดับแรกก่อนจุดที่สามารถอพยพคนได้ต้องอพยพก่อน แต่การแก้ไขปัญหาระยะยาวค่อยว่ากัน จุดที่ตรวจสอบตรงนี้มีดินสไลด์เข้ามาในเขตทาง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 วันก่อนมีดินไหลลงมาและเก็บแล้ว รวมทั้งอาคารบ้านเรือนที่อยู่บนเขา กังวลว่าอาจจะร่วงหล่นลงมาด้วย กำลังตรวจสอบว่า อาคารเหล่านั้นยังมีความมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ ฐานรากที่สร้างไว้บนเสาเข็มหรือบนดินแข็ง ถ้าอยู่บนดินแข็งอันตรายแน่นอนเพราะดินจะอ่อนตัวและลึกลงเรื่อยๆ ถ้าอยู่บนเสาเข็มต้องวิเคราะห์ ว่าจากรูปแบบที่ขออนุญาตเสาเข็มมีความลึกถึงชั้นดินแข็งแค่ไหนจำเป็นต้องรื้อถอนอาคารก่อนหรือไม่เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นที่มากกว่านี้
” ขณะนี้ได้สืบหาเจ้าของอาคารร้างดังกล่าว และ ทราบตัวเจ้าของแล้ว คิดว่าจะขอเจรจาขอให้เจ้าของอาคารสมัครใจที่จะดำเนินการรื้อถอนเนื่องจากถ้าปล่อยไว้ เกรงว่ามันจะร่วงลงมาในวันข้างหน้า และตอนนี้ยังเปิดการจราจรไม่ได้จนกว่าจะมั่นใจว่าบริเวณตรงนั้นสภาพของดินที่ชุ่มน้ำอยู่ คือ ต้องรอให้ดินอยู่ในสภาพมีความมั่นคงก่อน คือให้ดินแห้งก่อนและตึกตัวนั้นจึงจะมีสภาพที่ปลอดภัยจึงจะเปิดการจราจรได้เพราะว่าการรื้อถอนอาคารต้องใช้เวลาดำเนินการอย่างเร็ว 2 เดือน เพราะว่าต้องทำทางเข้าไปใหม่ เนื่องจากตอนนี้เข้าถึงตัวอาคารไม่ได้ อยู่บนที่สูงต้องทำทางข้ามถนนตัดข้ามร่องน้ำไปจึงจะขึ้นไปได้และเป็นทางลาดชันที่สูงมาก ตอนนี้ จึงปิดการจราจรเส้นทางดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าฝนจะหยุดตกและดินที่ชุ่มน้ำตรงนั้นเป็นดินที่แห้งและคิดว่ามีความมั่นคงปลอดภัยจริงๆจึงจะเปิดการจราจรได้”รองผู้ว่าฯภูเก็ตกล่าว
สำหรับ การแก้ปัญหาอพยพคนจากน้ำท่วมและ ดินสไลด์ ได้จัดหาที่พักชั่วคราวให้ แต่จากการสำรวจส่วนใหญ่อยากอยู่ที่เดิมไม่อยากออกจากบ้าน ทางจังหวัดภูเก็ต โดยเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต มีเครื่องนอนให้ประชาชนได้เบิกให้เทศบาลตำบลรัษฎา จำนวน 40 ชุด ขอฝากถึงประชาชน ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมเขาต้องเฝ้าสังเกตหลังบ้าน ถ้าตึกทรุดตัวจะมีเสียงลั่นให้ได้ยินก่อนและสังเกตดินสไลด์ลงมา ถ้าประชาชนกำลังจะแก้ปัญหาดินสไลด์เอง ขอให้ชะลอก่อน อย่าเพิ่งปรับเนินดิน เพราะช่วงนี้ฝนตกหนาแน่นอยู่ คาดว่า อีก2-3วันสภาพฝนน่าจะลดลง ถ้าฝนไม่ตกเพิ่มเติมการเกิดดินสไลด์จะมีแนวโน้มลดลง
ด้าน นายสุวิทย์ พันธุ์เสงี่ยม โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากฝนตกหนักลงมาติดกัน 5-6 วัน ดินอุ้มน้ำไว้เยอะและเมื่อคืน (20 ตุลาคม ) ที่ซอยประยูร 2 ได้ทรุดพังลงมา ดังนั้นในส่วนอาคารก่อสร้างบนที่ลาดขันขอให้พึงระมัดระวัง สำหรับ ในส่วนอาคารร้างบนภูเขาที่ติดริมถนนบายพาสขาออกนี้ จะขึ้นตรวจพิสูจน์ว่ามีความเสี่ยงขนาดไหนถ้าไม่เสี่ยงมากจะเปิดการจราจรได้หลังจากฝนแล้ง
ภาพ/ข่าว : อชัถยา ชื่นนิรันดร์
