เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยถึงการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 7,600,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่สุสานบ้านดอนชุม หมู่ที่ 4 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ว่า ได้รับการแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีในพื้นที่ว่า พบรถขนทรายต้องสงสัยกระทำความผิดเข้ามาจอดทิ้งไว้ที่สุสานบ้านดอนชุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ และเจ้าหน้าที่ทหาร นำโดย พ.อ.ธำรงศักดิ์ บุญทักษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแพร่ (ฝ่ายทหาร) ได้บูรณาการร่วมกันเข้าตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถขนทรายดังกล่าว จึงเร่งสั่งการตรวจสอบขยายผลเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
นายชุติเดช กล่าวว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ได้สั่งการให้ นายสมเกียรติ อาจสังข์ นายอำเภอร้องกวาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์พีระ การะเกตุ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรร้องกวาง กำนันตำบลแม่ยางร้อง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บูรณาการนำกำลังเข้าตรวจสอบรถขนทรายตามที่ได้รับเเจ้งจากพลเมืองดีในพื้นที่ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถขนทรายดังกล่าว จำนวน 38 กระสอบ บรรจุยาเสพติด ประมาณ 200,000 เม็ด ต่อ 1 กระสอบ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์หลักฐานและขยายผลเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิด เเละผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีนโยบายสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการขั้นเด็ดขาด และนำตัวเครือข่ายยาเสพติด และผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังจากการตรวจยึดได้รายงานผลการปฏิบัติให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เเละนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้เร่งขยายผล พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการประสานข้อมูลจากจังหวัดเเละอำเภอที่รถขนทรายได้มีการลักลอบขนส่งเเละเดินทางเข้ามาในพื้นที่ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เพื่อให้สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว
“ขอขอบคุณและชื่นชมพลเมืองดีที่ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูเเลพื้นที่ ช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่น่าอยู่ และตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ายังมีพลเมืองดีอยู่ในสังคมอีกเป็นจำนวนมากที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ หลังจากพลเมืองดีรายดังกล่าวได้เเจ้งเบาะเเสสำคัญให้กับผู้นำท้องที่ ก็ได้มีการเร่งตรวจสอบเเละขยายผลทันที ทั้งนี้หากพบเบาะเเสเพิ่มเติมสามารถเเจ้งข้อมูลได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ หรือที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เเจ้งเบาะเเสจะถูกคุ้มครองและปกปิดเป็นความลับ โดยจะมีการป้องกันไม่ให้ได้รับภัยจากการเเจ้งเบาะเเสดังกล่าว” ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าว
