เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายชัชวาลย์ เบญจศิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายธรณิศ เทพแพงตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด นายอนุพงษ์ ชื่อเพราะ วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด นายพัฒนพงศ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด นายศฎายุช ไชยะลาด นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ว่าที่ รท.อนันต์ เมาะราษี รองปลัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด พร้อมคณะทีมวิศวกรร่วมตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของหอโหวดร้อยเอ็ด จากการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนม่าที่ส่งผลกระทบต่อหลายจังหวัดในประเทศไทย โดยได้ร่วมปรึกษาหารือและตรวจสอบตามขั้นตอนของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยได้ตรวจสอบที่ เสาชั้นที่ 1-4 ไม่เคลื่อนตัวเสา ชั้นที่ 4-35 ไม่เคลื่อนตัว ผนังและรอยต่อไม่มีรอยแยกแต่อย่างใด
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศพม่าได้มีผลกระทบต่อประเทศไทยเกือบทั้งประเทศท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัด ตรวจสอบความเสียหายรวมถึงตรวจถึงความมั่นใจในเรื่องของอาคารสูงที่ให้บริการในพื้นที่ ในจังหวัดร้อยเอ็ดมีตึกสูงเข้าข่ายที่จะต้องตรวจสอบก็คือ หอโหวดแห่งนี้รวมถึงที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดยได้เข้ามาร่วมตรวจสอบตามแนวทางของกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ออกคู่มือสำรวจความเสียหายขั้นต้นของโครงสร้างอาคารหลังจากเหตุแผ่นดินไหวเป็นมาตรฐานที่กรมโยธาธิการและผังเมือง วางกรอบเอาไว้เป็นไปตามกฎหมาย จากการได้ทำการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงในเบื้องต้นโดยการตรวจสอบหลักๆก็คือ ตรวจสอบโครงสร้างในการรับน้ำหนักแรงด้านข้างโดยปกติ ตัวอาคารจะรับน้ำหนักแรงในแนวดิ่งแต่การตรวจสอบความเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบการรับแรงด้านข้างจุดต่อโครงสร้างหลักประกอบด้วยพื้น คาน เสา และผนัง กำแพงทั้ง 4 ส่วน
นอกจากนั้น ได้ตรวจดูความสมบูรณ์ของตัวอาคาร ซึ่งทางวิศวกรผู้เชี่ยวชาญได้มีการวางแผนการตรวจสอบชั้น 1 และชั้น 4 ดูจุดเชื่อมต่อระหว่าง 4 โครงสร้างสำคัญซึ่งตัวชี้วัดหลักๆตัวอาคารหอโหวด มีกันขยับตัวมีผลกระทบหรือไม่ จุดแรกที่สำคัญที่สุดคือตัวปล่องของหอโหวดที่ทำหน้าที่เป็นเสากับตัวพื้นถ้ามีการขยับตัวก็จะมีการเกิดรอยร้าวจากการตรวจสอบโดยรอบของคณะผู้เชี่ยวชาญ ปรากฏว่า ไม่มีร่องรอยการร้าว การตรวจสอบส่วนที่ 2 คือชั้น 1 ก็ได้ตรวจดูการเชื่อมต่อระหว่าง เสา คาน พื้นและผนัง ปรากฏว่าไม่มีรอยร้าวเช่นเดียวกัน ทุกอย่างยังมีสภาพสมบูรณ์และการตรวจเชิงกายภาพไม่ปรากฏของตกหล่นไม่ปรากฏ ฝุ่น ผง ฝ้า โคมไฟ ต่างๆทุกอย่างอยู่ในสภาพปกติ
ด้าน นายพัฒนพงศ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า โครงสร้างการออกแบบหอโหวด 101 สามารถรับ แรงลมได้ถึง 200 กม./ชั่วโมง หรือ 0.2 ตันต่อตารางเมตร ฐานรากมีลักษณะเป็นลูกตุ้ม การให้ตัว 1/500 การโยกให้ตัวได้ 22 เซนติเมตร ตามมาตรฐานกรมโยธาธิการ หอโหวด 101 มีความสูง 124.6 เมตร จากระดับพื้นดินถึงยอดโดม เมื่อวาน เวลา 13.20 น. มีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ชั้น 34 31 29 ได้แจ้งเจ้าหน้าที่หอโหวดว่ามีการรับรู้แรงสั่นไหวของหอโหวด คือมีอาการวิงเวียนศรีษะ นึกว่าไม่สบาย ต้องการไปพบแพทย์แต่หลังจากทราบว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหวก็ลงมาอยู่ที่พื้นดินทำให้ร่างกายปกติ และขณะนี้ จากการตรวจสอบจุดสำคัญในทุกๆจุดโดยทีมวิศวกรเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดไม่มีรอยร้าว ลิฟสามารถใช้งานได้ตามปกติ นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมหอโหวดร้อยเอ็ดได้อย่างมั่นใจ 100%
ข่าว/ภาพ : คมกฤช พวงศรีเคน ผู้สื่อข่าวจังหวัดร้อยเอ็ด
