เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้จัดกิจกรรม “ผู้ว่าคลายทุกข์ ช่วยเหลือราษฎรเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง” เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการน้อมนำพระดำริ “หมู่บ้านยั่งยืน” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ภายใต้การดำเนินโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมี นางสงวน จันทร์พร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก ร่วมกิจกรรม
นายวันชัย กล่าวว่า กิจกรรม “ผู้ว่าคลายทุกข์ ช่วยเหลือราษฎรเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง” ของจังหวัดนครพนม เป็นการน้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในทุกมิติ ทั้งในด้านขจัดความยากจน การสร้างความมั่นคงทางอาหาร การสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย พร้อมถ่ายทอดสู่ลูกหลานเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาและรักษาให้อยู่คู่กับประชาชนชาวไทยต่อไป ด้วยหลักการมีส่วนร่วม โดยการบูรณาการกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน ด้วยกลไกส่งเสริมการสานพลัง “บวร” (บ้าน วัด ราชการ) เสริมสร้างพลังคนในชุมชน ให้เกิดการช่วยเหลือดูแลซึ่งและกันของคนในชุมชน นำไปสู่การร่วมกันทำสิ่งที่ดี Change for Good เป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนเกิดความรักความสามัคคี อันเป็นปัจจัยสำคัญในการนำไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ที่ประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
“พวกเราชาวนครพนม จึงได้ร่วมกันลงพื้นที่ตำบลท่าเรือและตำบลนางัว อำเภอนาหว้า ได้ร่วมกันทำกิจกรรม ประกอบไปด้วย 1.กิจกรรมตรวจเยี่ยมครัวเรือนและส่งมอบบ้านที่ได้รับการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก และปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยกลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน ในการขับเคลื่อนประสานงานให้ความช่วยเหลือ ในการจัดหางบประมาณสนับสนุน และอาศัยแรงงานในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการในการปรับปรุงและก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมาะสม ให้มีความมั่นคงถาวร มีความเหมาะสมกับผู้พิการ และถูกสุขลักษณะมากยิ่งขึ้น พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของเครื่องใช้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ให้กับครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง จำนวน 3 ครัวเรือน
2.กิจกรรมการส่งมอบบ่อบาดาล สูบน้ำด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกล ที่ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการประกอบอาชีพ จำนวน 2 บ่อ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รวมกลุ่มและร่วมกันบริหารจัดการให้มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และการประกอบอาชีพอย่างเพียงพอ ส่งเสริมปัจจัยการพัฒนาคุณภาพชีวิต เสริมสร้างรายได้ และเป็นต้นทุนในการต่อยอดการพัฒนาพื้นที่โดยกลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน ภาคีเครือข่าย
3. กิจกรรมลงแขกปลูกหญ้าเลี้ยงโคกระบือ แปลงต้นแบบกลุ่มธนาคารโคกระบือบ้านนาคอย เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ และเป็นแหล่งกระจายพันธุ์หญ้าเลี้ยงโคกระบือที่มีคุณภาพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวในพื้นที่ ใช้ในการศึกษาเรียนรู้แนวทางการเลี้ยงโคกระบือ ส่งเสริมการประกอบอาชีพที่มั่นคง เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างความร่วมมือส่งเสริมกันในชุมชน นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป และ และ 4.กิจกรรมลงแขกดำนาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ) ในพื้นที่จำนวน 5 ไร่ ณ บ้านนาคอยหมู่ที่ 10 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า โดยได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการนำภาคีเครือข่าย และประชาชนจิตอาสา ร่วมกันดำเนินการลงแขกดำนา จัดการแข่งขันดำนาชิงรางวัล ช่วยลดต้นทุนการผลิต สร้างคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน” นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันทำให้คนในชุมชนของเรา สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานทำนา เพาะปลูกให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายได้มีผลผลิตที่มีคุณภาพ สามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง ลดค่าใช้จ่ายในการประกอบอาหาร ลดค่าครองชีพ และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนจังหวัดนครพนมได้อยู่ดี กินดี สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุข ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ บูรณาการการทำงานร่วมกัน อันจะส่งผลให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เกิดการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่มีความสุขอย่างยั่งยืน
