
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่มีการเปรียบเทียบการลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ของนายพิธา กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาเปรียบเทียบกัน เราเอาปัญหาของประชาชนมาเป็นที่ตั้ง แล้วข้อมูลก็เห็นชัดกันอยู่ว่าปีนี้หนัก เราในฐานะฝ่ายค้าน เป็น สส. ถ้าจะพูดได้ก็ต้องเห็นจริง
ทั้งนี้ ยืนยัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวัดพลัง มันไม่ใช่เวลาที่จะมาเปรียบเทียบอะไร เราต้องคิดว่าจะแก้ปัญหาให้ประชาชนเร็วที่สุดได้อย่างไร แต่ถอดบทเรียนได้อย่างไร ที่ปีหน้าเวลาเดิมปัญหาฝุ่นจะทุเลาลงกว่านี้ โดยข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้ก็คือตอนนี้เชียงใหม่แย่ที่สุด ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้ คือ ก้าวไกลมี สส. 7 คนจาก 10 คน เถียงไม่ได้ คือพรรคก้าวไกลเป็นประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม สส. เป็นฝ่ายค้านมันก็ต้องทำหน้าที่ ฉะนั้น ต้องเอาประชาของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาใครมาเป็นตัวตั้ง

นายพิธา กล่าวว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวการเมือง การเดินสายของตน วันเสาร์อาทิตย์จะลงพื้นที่เพื่อดูปัญหาประชาชน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เราเอาไฟป่าเป็นที่ตั้ง เพราะมีความฉุกเฉินจริงๆ พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวด้วยความตกใจว่า หนักขนาดนี้โรงเรียนยังไม่หยุดใช่หรือไม่ นอกจากนี้ ยังไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ทำให้ไม่สามารถใช้งบได้ ดังนั้น การเป็นผู้แทนราษฎร ก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้ อีกทั้งฝ่ายค้านก็ต้องทำงานเหมือนกัน ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว มีออก พ.ร.บ.ห้ามฝ่ายค้านทำงานหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ เราก็มีหน้าที่ต้องทำงานเหมือนกัน
นายพิธา กล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้าจะอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2-3 แล้ว พรรคก้าวไกลจะอภิปรายเรื่องนี้อย่างแน่นอนส่วนจะอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 หรือไม่ ต้องรอดู ยังไม่ถึงเวลาเฉลย
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลลดลงหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องกระแส คงทำงานให้เต็มที่ เพราะปัญหาสำคัญมีเยอะเพราะวิกฤตของเชียงใหม่ตอนนี้สำคัญมากกว่ากระแสของพรรคอยู่แล้ว เดี๋ยวก็จะมีอภิปรายงบประมาณ อภิปรายทั่วไป ต้องบินไปประชุมรัฐสภาสากลที่เจนีวาอีก ทำงานในช่วงเวลาสำคัญและในวิกฤตของพรรคไม่ได้เป็นความลับอะไร เรื่องยังอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

นายพิธา กล่าวย้ำว่า ไม่ได้คิดถึงกระแสของนายทักษิณ จะทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลลดลง เรื่องคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังเร็วเกินไป ที่ยังจำได้ไม่ลืมก็คือการเลือกตั้งที่ผ่านมาคนเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ 81% แล้วพรรคก้าวไกลก็ได้มาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้มองไปในอนาคต แต่มองที่ปัจจุบันและย้อนไปที่อดีต และไม่ลืมความไว้วางใจที่พี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ไว้กับพวกเรา ขณะเดียวกัน ถึงเวลาจะผ่านมา 8 เดือน ก่อนที่ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างไร หลังจากที่ให้ความไว้วางใจมาแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งตอกย้ำเหตุผลว่า ทำไมอดีตหัวหน้าพรรคหรืออดีตแคนดิเดตนายกฯ คนนั้น ต้องมาเชียงใหม่ในช่วงที่เขาลำบากมากที่สุดด้วย
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ ตนและทีมงานจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาสถานการณ์ไฟป่าที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะกับอาสาของมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งได้เชิญทางพรรคก้าวไกลมาล่วงหน้าแล้วที่ถือเป็นปีที่ 5 ของมูนิธิกระจกเงาในการลงพื้นที่มาแก้ไขปัญหาไฟป่า จึงอยากให้ฝ่ายการเมืองเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ทำกิจกรรม ‘ก้าวไกลดับไฟป่า’ รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้มาลงพื้นที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยตนเองแล้ว และทางประธานคณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร