
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติโหวตไม่สนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกฯว่า เรายอมรับ แต่ยังไม่ยอมแพ้ และยอมรับว่าเสียงยังไม่ถึงมติที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ที่ 376 เสียง แต่ได้มา 324 เสียงตามที่เราคิดและคาดการณ์กันไว้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่ามีการกดดัน ส.ว.มาก รวมทั้งบางส่วนที่ไม่มาประชุมกว่า 40 คน ฉะนั้นตรงนี้ไม่ตรงตามที่เราคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันยังไม่ยอมแพ้ จะใช้เวลาที่เหลือหายุทธศาสตร์ในการรวบรวมเสียงในการโหวตครั้งต่อไปให้เพียงพอ ส่วนการประชุมรัฐสภาจะเกิดขึ้นวันใดก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะนัดประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ยังจับมือกันต่อในการโหวตครั้งต่อไป นายพิธา กล่าวว่า ผลโหวตออกมาเป็นอย่างนั้น ยังแสดงว่าเรายังทำงานร่วมกันต่อไป เรายังเชื่อใจซึ่งกันและกัน ทั้งกับพรรคเพื่อไทย และ 7 พรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า การโหวตเลือกนายกฯครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะต้องปรับ หรือต้องถอยในประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เราสัญญากับประชาชนไว้อย่างใดก็ยังต้องทำอย่างนั้น ที่ประชุมวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้อธิบายให้ที่ประชุมได้รับทราบถึงเจตนารมณ์ของพรรคก้าวไกลที่จะเสนอให้ที่ประชุมสภาให้ทั้ง ส.ว.และเพื่อน ส.ส.หลายคนที่อาจจะไม่เข้าใจให้เข้าใจตรงกัน