“พิธา”ปลุกมวลชนสานต่ออุดมการณ์ก้าวไกลให้ถล่มทลาย


เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ นายชัยธวัช ตุลาธน พร้อมด้วยอดีตกรรมการบริหารพรรค อดีต สส. และอดีต ส.ก. พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวที่อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 7 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

นายชัยธวัช กล่าวว่า แม้ศาลฯ มีคำวินิจฉัยเห็นว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองฯ ตนในฐานะอดีตคณะกรรมการบริหารพรรค ขอยืนยันว่าทั้งโดยข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายที่ควรจะเป็น เราไม่ได้กระทำการล้มล้างการปกครองหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างที่ศาลฯ เห็น


ทั้งนี้ เราเห็นว่าผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ สิ่งที่ได้รับผลกระทบและสำคัญกว่าการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกลและสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค คือคำวินิจฉัยในวันนี้เป็นการวางบรรทัดฐานในการตีความรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่อันตราย สุ่มเสี่ยงจะกระทบต่อหลักการสำคัญและคุณค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของเราในอนาคต ผลของคำวินิจฉัยวันนี้สุ่มเสี่ยงทำให้ในระยะยาว ระบอบนี้กลายพันธุ์ไปเป็นระบอบอื่นได้

“ไม่ใช่แค่เรื่อง 112 นัยสำคัญของคำวินิจฉัยวันนี้กระทบกับการตีความว่าอะไรคือหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สุ่มเสี่ยงทำให้ระบอบนี้สูญเสียสมดุลระหว่างคุณค่าหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย กับการดำรงอยู่ของพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของประเทศ” นายชัยธวัช

ด้านพิธา กล่าวว่า ตนรู้สึกซาบซึ้งใจและเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตที่ได้รับใช้พี่น้องประชาชน รวมถึงโอกาสที่ได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานเก่งๆ ทุกคน เป็นเวลา 3-4 ปีในชีวิตที่จะจำไว้อย่างไม่มีวันลืม แม้วันนี้ตนต้องอำลาในฐานะนักการเมืองและในฐานะผู้แทนราษฎร แต่ขณะเดียวกันตนจะเริ่มต้นทำการเมืองในฐานะพลเมืองคนหนึ่งและจะไม่ทิ้งไปไหน รวมถึงทำทุกทิศทางในฐานะพลเมืองคนไทยคนหนึ่งในการทำให้บ้านเมืองดีขึ้น และช่วยพาหนะใหม่ของเพื่อนอดีตพรรคก้าวไกลตามที่กฎหมายอนุญาต ในการทำให้พวกเขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา

สำหรับประชาชน ท่านอาจรู้สึกผิดหวัง โกรธแค้น หรือมีน้ำตา วันนี้เราเสียใจให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราจะก้าวข้ามมันไป ไม่ปล่อยให้ความคับแค้นใจกัดกินเรา แต่เราจะผลักมันและระเบิดให้ถล่มทลายในคูหาทุกการเลือกตั้งต่อจากนี้ไปถึงปี 2570 โดยเฉพาะเฉพาะหน้าใน 2 จังหวัด คือพิษณุโลก เขต 1 ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม สส. ซึ่งตนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ รวมถึงการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรี



ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกลุล กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่เราต้องรับคำวินิจฉัยของศาลอีกครั้ง คนที่ต้องรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดครั้งนี้ ก็ไม่พ้นพวกเราที่ถูกยุบพรรคเป็นครั้งที่สองแล้ว เรารับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น เรารู้สึกร่วมกับทุกคนว่ามันมีความเจ็บปวด แต่เราจะไม่ละทิ้งความฝันหรือภารกิจหน้าที่ที่เราได้รับมอบมาจากประชาชนทุกคน ตราบใดที่ประชาชนยังอยู่เคียงข้างเรา หนุนหลังให้เราเดินต่อเพื่อทำภารกิจเปลี่ยนประเทศนี้ต่อ

โดยวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เราจะย้ายไปที่บ้านใหม่ด้วยกัน ส่วนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นอย่างไร ต้องรอฟังเสียงเพื่อน สส. อย่างเป็นทางการในวันนั้น จึงขอให้ร่วมติดตามและสนับสนุนพรรคใหม่ของพวกเราด้วย นอกจากนี้ วันนี้ที่เราถูกยุบพรรคยังเป็นวันที่เรามีสมาชิกอดีตพรรคก้าวไกลครบ 100,000 คน จึงขอให้ 100,000 คนนี้ไปกับเราต่อในบ้านหลังใหม่ ไปด้วยกันให้มากกว่าเดิม



เมื่อถามถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราทุกคนในอดีตพรรคก้าวไกลเชื่อว่ามาตรานี้มีปัญหา แต่วิธีการแก้ไขจะเป็นอย่างไร ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดมากขึ้นหลังจากย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ อย่างไรก็ตาม ในคำวินิจฉัยศาลฯ วันนี้ ยังไม่มีตรงไหนที่เขียนว่าห้ามแก้โดยเด็ดขาด

Message us