เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้แสดงท่าทีไม่พอใจกรณีที่ นายพิชัยเดินทางไปต่างประเทศบ่อย และปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นความผิดพลาดของตนที่ไม่ได้สื่อสารกับคนในพรรคให้ดีพอ และบางครั้งตนก็ได้ทำงานหนัก เพราะการเดินทางแต่ละครั้งก็มีความสำคัญ อาทิ การเดินทางเข้าร่วมประชุม อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่ได้มีการลงนามสมาคมการค้าเสรียุโรป หรือเอฟตา ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาในประเทศจำนวนมาก รวมถึงยังมีแนวโน้มจะลงนามร่วมกับยุโรป เพื่อผลักดันให้แล้วเสร็จในปีนี้ รวมถึงการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ที่ไปเจรจาเรื่องทารีฟใหม่ (อัตราภาษีศุลกากร) ซึ่งตนเชื่อว่า จุดนี้ โอกาสที่ไทยจะโดนน้อยมาก จะทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และอีกหลายการเดินทาง ซึ่งจะมีข่าวความคืบหน้าต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการชี้แจงและอธิบายเรื่องนี้ ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า หากตนไม่เดินทางไปต่างประเทศ ตนก็มีการอธิบายเรื่องนี้ต่อที่ประชุมรับทราบอยู่แล้ว ว่า การเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นจริงๆ ไม่ใช่เดินทางไปต่างประเทศเพราะอยากไปเที่ยว และการเดินทางบ่อยๆ ไม่ถือเป็นเรื่องสนุก เพราะมีความเหนื่อยและต้องปรับเรื่องเวลาตลอด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของทุกประเทศก็มีการเดินทางเยอะ ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศขนาดเล็กที่ต้องอาศัยต่างประเทศในการขยายการเติบโต ทั้งการส่งออก ท่องเที่ยว การลงทุน ปัจจุบันการลงทุนเพิ่ม 1.14 ล้านล้านบาท โดยในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ กระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขส่งออก เบื้องต้นทราบว่าขยายตัวได้เกิน 10% ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จำเป็นจะต้องบาลานซ์ทุกเรื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับงานทั้งในและต่างประเทศ ทั้งการให้ความช่วยเหลือเรื่องมันสำปะหลัง การขายข้าว ยืนยันตนไม่ได้ทอดทิ้งเรื่องในประเทศ แต่การนำเสนอข่าวในต่างประเทศอาจมีมากกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของข้าว ที่ราคาเริ่มปรับลงในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และตนได้เตือนเรื่องราคาข้าวมาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้มีมาตรการสนับสนุนข้าวนาปรัง ซึ่งเมื่อชาวนาเดือดร้อน ต้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือ และตนก็ไม่สามารถควบคุมราคาข้าวได้ เพราะเป็นปัจจัยจากต่างประเทศ ยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ทำงานทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อถามว่า อาจมีชื่ออยู่ในโผของการถูกปรับ ครม. นายพิชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ไม่กังวลใจ และต้องทำให้ดีที่สุดในทุกเรื่องทุกวัน และได้มีการเคลียร์ใจกันแล้ว ซึ่ง ส.ส.ก็มารับฟังและเข้าใจกันแล้ว โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือตันละ 1,000 บาท โดยวันพรุ่งนี้ตนจะเข้าไปอธิบายให้ ส.ส.ในพรรคอีกครั้ง เมื่อถาม ความพร้อมการสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายพิชัย กล่าวว่า ตนเต็มที่และหากตนถูกอภิปราย ตนก็พร้อมชี้แจงรายละเอียดทุกอย่าง
นายพิชัย กล่าวถึงการพิจารณามาตรการดูแลเสถียรภาพราคาข้าว ซึ่งอนุกรรมการคณะกรรมการนโยบายและบริการจัดการข้าว (นบข.) ด้านการตลาดจะเสนอ 3 แนวทางในการดูแล ที่จะช่วยเหลือต้นทุนรายละ 1,500 บาท และใช้งบประมาณ 1,890 ล้านบาท ต่อที่ประชุม นบข.ชุดใหญ่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ส่วนเรื่องการขอชดเชยส่วนต่างในลักษณะประกันรายได้นั้น เป็นเรื่องที่ขัดกฎการค้าโลก และหากจะช่วยเหลือในแบบเดียวกันนี้ ก็จะทำทุกปี ซึ่งจะมีผลต่องบประมาณในอนาคต
