
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้มีประกาศฉบับที่ 1 (111/2566) ลงวันที่ 22 เมษายน 2566 เวลา 05.00 น. แจ้ง 56 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน ในช่วงวันที่ 23 – 26 เม.ย. 66 กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และจัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

นายวันชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน เวลาประมาณ 16.30 น. เกิดพายุฤดูร้อน และลมกระโชกแรง เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 719 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดนครพนม ได้แก่ 1) พื้นที่อำเภอธาตุพนม ตำบลโพนแพง เสียหาย 196 หลังคาเรือน ตำบลนาถ่อน เสียหาย 147 หลังคาเรือน ตำบลดอนนางหงส์ เสียหาย 130 หลังคาเรือน ตำบลกุดฉิม เสียหาย 62 หลังคาเรือน 2) พื้นที่อำเภอเรณูนคร ตำบลนางาม เสียหาย 71 หลังคาเรือน ตำบลโพนทอง เสียหาย 19 หลังคาเรือน รวมพื้นที่อำเภอเรณูนคร เสียหาย 90 หลังคาเรือน 3) พื้นที่อำเภอปลาปาก ตำบลกุตาไก้ เสียหาย 29 หลังคาเรือน ตำบลหนองฮี เสียหาย 16 หลังคาเรือน รวมพื้นที่อำเภอปลาปาก เสียหาย 45 หลังคาเรือน และ 4) พื้นที่อำเภอเมืองนครพนม ตำบลนาราชควาย เสียหาย 2 หลังคาเรือน ตำบลคำเตย เสียหาย 27 หลังคาเรือน ตำบลบ้านผึ้ง เสียหาย 19 หลังคาเรือน ตำบลขามเฒ่า เสียหาย จำนวน 1 หลังคาเรือน

“วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอธาตุพนม พร้อมทั้งมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุวาตภัย ในพื้นที่ อำเภอเรณูนคร อำเภอปลาปาก และอำเภอเมืองนครพนม พร้อมกำชับให้นายอำเภอในพื้นที่ เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและจัดทำที่พักชั่วคราวสำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหนัก พร้อมทั้งประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการสำรวจ ประมาณการ จัดซื้อวัสดุซ่อมแซม ให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ โดยให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับช่างจิตอาสา ในพื้นที่ บูรณาการร่วมกันในการรื้อถอนและซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว” นายวันชัยกล่าว

ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามสภาพอากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น ขณะเกิดพายุฤดูร้อนให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรป้องกันผลิตผลทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหายในระยะนี้ไว้ด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

