พาณิชย์แถลงโชว์”Quick Win 99 วัน” 3 ซ่อม 8 สร้าง 4 เสริมช่วยคนไทย

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงผลการดำเนินงาน Quick Win 99 วัน กระทรวงพาณิชย์ โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ในระยะ 99 วันของการทำงานในกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ดำเนินการใน 7 นโยบายเร่งด่วน แบ่งเป็น 3 ระยะ 15 เป้าหมาย ประกอบด้วย 3 ซ่อมเพื่อช่วยลดช่องว่าง 8 สร้างเพื่อต่อเติม และ 4 เสริมเพื่อยั่งยืน แม้เป็นการดำเนินการภายใต้สภาพจำกัดที่ไม่มีงบประมาณปี 2567 เป็นเครื่องมือการบริหารงาน อีกทั้งทำงานท่ามกลางปัญหา ทั้งสภาพภูมิอากาศ ภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น แต่จากความร่วมมือของทีมพาณิชย์และทุกภาคส่วน แต่เรามีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ทำให้เราไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปด้วย ทำงานกันอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ทุกอย่างผ่านไปได้ ซึ่งตนพึ่งพอใจ

ทั้งนี้ ระยะที่ 1 “3 ซ่อม เพื่อลดช่องว่าง” ให้คนตัวเล็กทั้งประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ลดค่าครองชีพ เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ พยุงราคาสินค้าเกษตร เสริมความเข้มแข็งในการค้าขาย ได้แก่ ลดค่าครองชีพ จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ผ่าน 5 กิจกรรมหลักทั่วประเทศ ลดสูงสุดกว่า 82% ลดค่าครองชีพไปแล้วกว่า 7,758 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 12,000 ล้านบาท 2.ช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งการให้สินเชื่อและชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อก และเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทแก่ชาวนา ชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อก สินเชื่อเพื่อรวบรวมเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและการแปรรูปให้กับชาวไร่มันสำปะหลังและข้าวโพด ช่วยสนับสนุนค่าบริหารจัดการสต๊อกในประเทศให้กับชาวสวนปาล์มน้ำมัน ทั้งนี้มีการเชื่อมโยงผลผลิตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในช่วง 99 วันที่ผ่านมาไปแล้วกว่า 3,369 ล้านบาท กระจายผลผลิตกว่า 9,000 ตัน

และ 3. ช่วยผู้ประกอบการอำนวยความสะดวกการค้า ทำให้เป็น E-Government ใช้เทคโนโลยีบริการประชาชนคาดว่าช่วยผู้ประกอบการได้กว่า 1,250,000 คน โดยพัฒนาระบบจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ การเพิ่มช่องทางจดทะเบียนบริษัทจำกัดมหาชนออนไลน์ การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเอง และแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคและไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน 8 ฉบับ อาทิ พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ร.บ. สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ร.บ. สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฏหมายว่าด้วยหอการค้าบางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. … และหาช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่าน 77 กิจกรรมสร้างมูลค่ารวม 20,838 ล้านบาท พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ผ่าน 22 กิจกรรม อาทิ ขายลิขสิทธิ์เพลงฟรีแก่ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก สสว. 3 เดือน และมอบส่วนลดพิเศษ 50 – 55% และกิจกรรมใช้กลยุทธ์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย การอบรมเพิ่มทักษะองค์ความรู้ผู้ประกอบการ ใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อขยายตลาด จาก FTA เป็นต้น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับระยะที่ 2 “8 สร้าง เพื่อต่อเติม” ปรับฐานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ บริหารต้นทุน แปรรูปผลผลิตเพิ่มช่องทางการแข่งขันทางการตลาด สร้างแต้มต่อ เพื่อรองรับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง 1.สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก วางแผนกระจายสินค้าเกษตรล่วงหน้าผ่านช่องทางใหม่ๆ ควบคุมและจัดสรรต้นทุนสินค้าที่จำเป็นให้เกษตรกรช่วยลดต้นทุน 2.สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการในการแข่งขัน เชื่อมโยงเครือข่าย SMEs ให้บริการข้อมูลเชิงลึกด้านการพาณิชย์ 3. สร้างกลไกพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์และทีมไทยแลนด์ ร่วมมือกันขยายตลาดไปต่างประเทศรองรับนโยบายทีมไทยแลนด์ของรัฐบาล

4.สร้างยุทธศาสตร์การค้าชายแดน/ผ่านแดน ตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service:OSS) 8 จังหวัด 5. สร้างยุทธศาสตร์การส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ใช้นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เจาะตลาดรายมณฑลและตลาดเมืองรอง เพิ่มช่องทางการส่งเสริมสินค้าไทย ผ่านร้าน Thai Select ทั่วโลก 6.สร้างแต้มต่อทางการค้าด้วย FTA เร่งเจรจาตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ก.พ.67 นี้ จะมีการลงนาม FTA กับศรีลังกา ให้ GDP ไทยเพิ่มอีกร้อยละ 0.02 ต่อปี 7. สร้างอาชีพ สร้างโอกาสทางการค้าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านอาหารไทย ภาพยนตร์/เกม การท่องเที่ยวคุณภาพสูง หนังสือ แฟชั่น งานออกแบบ และการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการไทย 8. สร้างความเข้มแข็งของธุรกิจด้วยนวัตกรรม

ระยะที่ 3 “4 เสริม เพื่อยั่งยืน” เสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.เสริมกลไกเพื่อรักษาระดับราคาสินค้าเกษตร อย่างครบวงจร วางแผนล่วงหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ 2.เสริมยุทธศาสตร์ของหน่วยงานรองรับการเปลี่ยนแปลง 3.เสริมมาตรฐาน SMEs ไทย ส่งเสริมผู้ประกอบการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จให้เป็นโมเดลกับรายใหม่ 4. เสริมขีดความสามารถทางการค้าไทย ได้กำหนดแผนเร่งรัดการส่งออกปี 2567 ผ่าน 417 กิจกรรม คาดว่าสร้างมูลค่าส่งออกกว่า 65,700 ล้านบาท

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ในปี 2567 จะยังสานต่อแผนงานที่ได้ทำไว้ และเชื่อว่าจากนี้ไปจะเห็นผลงานที่มากขึ้นผลิดอกออกผล ทั้งนี้ ในส่วนการลดภาระค่าครองชีพผ่านกิจกรรมต่างๆ ช่วง 99 วันลดได้ 7 พันล้านบาท และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 คาดช่วยลดภาระค่าครองชีพอีก 3 หมื่นล้านบาท และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้านบาท พร้อมกันนี้จะเร่งเพิ่มรายได้และขยายช่องทางการทำงานหากินของของประชาชน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและรายย่อย อาทิ ผลักดันร้านธงฟ้ากว่า 2 หมื่นแห่ง เป็นจุดรับ-ส่งพัสดุและสินค้า โดยกระทรวงพาณิชย์เตรียมจับมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และเพิ่มจำนวนร้านธงฟ้าทั่วประเทศรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงมีการจัดหาแหล่งเงินทุน ดอกเบี้ยต่ำ และสร้างอาชีพ โดย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการร่วมกับเอสเอ็มอี และกระทรวงแรงงาน

พร้อมกันนี้ จะเร่งรัดการเจรจาเปิดเสรีการค้า(เอฟทีเอ) ที่อยู่ระหว่างการหารือให้ได้ข้อสรุปอีก 4-5 ฉบับ อาทิ ภูฐาน เกาหลีใต้ อินเดีย ผลักดันแก้กฎหมายที่อำนวยความสะดวกทางการค้าและบริการ 4 ฉบับในต้นปี 2567 และเตรียมแผนป้องกันปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยจะให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) ดูแลในเรื่องการดูดซับผลผลิตและจัดทำเป็นคลังสินค้าเทียบเท่าภาคเอกชน ในด้านส่งออก มีแผนจะเดินทางไปเจรจากับอีกประเทศเพื่อเจรจาขายสินค้าเกษตร และชักชวนการมาลงทุน

Message us