เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thailand Tapioca Expo Korat 2024 และเกษตรสุรนารี 67 เป็นงานแสดงสินค้านวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักรกลการเกษตร และการประชุมมันสำปะหลังระดับนานาชาติ จัดที่ อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 12-16 มกราคม 2567 นี้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช เป็นประตูสู่ภาคอีสานมีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นศูนย์กลางทางด้านต่างๆของภูมิภาค ทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม มีพืชเศรษฐกิจ คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมันสำปะหลังมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเกษตรกรนับ 100,000 ครัวเรือน เมื่อวานตนได้คุยกับนายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง โดยสมาคมผู้ผลิตมันสำปะหลัง มี 4 สมาคม ถือเกษตรกรเป็นเป้าหมายสำคัญในการทำงาน ไม่เคยทอดทิ้ง มีประสานงานอย่างใกล้ชิด เป็นโชคดีของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งตรงกับนโยบายรัฐบาล นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่พูดเสมอว่า เราต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ทั้งนี้ โคราชมีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลัง และมีโรงงานแปรรูปมันสำปะหลังมากที่สุดในประเทศ มันสำปะหลังสร้างมูลค่าถึง 150,000 ล้านบาทต่อปี และในอนาคตจะสร้างรายได้ให้ประเทศสูงขึ้นอีก ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน แก้ไขปัญหา ให้กล้ามันสำปะหลังแข็งแรง ฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ โดยเฉพาะงานวิจัยที่ช่วยแก้ไขปัญหาโรคใบด่าง
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลสินค้ามันสำปะหลัง โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง หรือ นบมส. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจครัวเรือนด้วยการยกระดับ และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร โดยนโยบายของรัฐบาล ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เป็นเป้าหมายและทิศทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
สำหรับ ปัญหาของภาคเกษตรกร คือ ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำ ต้นทุนการผลิตสูง แรงงานภาคเกษตรมีแนวโน้มลดลง ปัญหาการบริหารจัดการน้ำ การพึ่งพาการนำเข้าปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตร ทำให้มีข้อจำกัดขาดความรู้ด้านการแปรรูป และการเก็บรักษาสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ ทั้งนี้การค้า การผลิต แบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบสนองโลกที่เปลี่ยนแปลง วันนี้ต้องปรับ ทุกส่วนต้องปรับ เพื่อก้าวทันระเบียบการค้าใหม่ของโลกที่เปลี่ยนแปลง ให้ความสำคัญกับคาร์บอนเครดิต การเกษตรยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการเกษตรที่สะอาด และมีอากาศที่สะอาด เกษตรกรไทยต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ รับมือกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและภายใน โดยเฉพาะเกษตรกรต้นน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญให้เกษตรกรไทยเติบโต และเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจการค้ารูปแบบใหม่ได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 9 คณะอนุกรรมการที่ดูแลลงลึกในแต่ละภารกิจ ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ให้การค้าขาย และชีวิตของเกษตรกรดีขึ้น ท่านนายกฯ ได้ตั้งทีมไทยแลนด์ ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานบีโอไอ และภาคเอกชน และกระทรวงพาณิชย์ได้จัดตั้งทีมพาณิชย์ ตอบสนองทีมไทยแลนด์ ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน
“การหาตลาดล่วงหน้าให้สินค้ามันสำปะหลัง เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ส่งผลดีต่อราคามันสำปะหลังในประเทศให้ปรับตัวสูงขึ้น มีตลาดรองรับ เกษตรกรขายมันสำปะหลังได้ราคาดีขึ้น มีรายได้มากขึ้น ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส โดยจากนี้จะเดินหน้าหาตลาดล่วงหน้าให้สินค้ามันสำปะหลัง และสินค้าเกษตรอื่นต่อไป โดยงานนี้ก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้ามากกว่า 13,000 ล้านบาท ขอขอบคุณสมาชิกสมาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ที่ช่วยผลักดันให้รัฐบาลสนใจและสนับสนุนจังหวัดนครราชสีมา เมืองหลวงของมันสำปะหลัง” นายภูมิธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน นายภูมิธรรม ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU ซื้อขายมันสำปะหลัง จำนวน 3 ชุด รวมมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท ระหว่าง ผู้ประกอบการไทย กับคู่ค้าประเทศเพื่อนบ้าน จากกัมพูชา และ สปป.ลาว ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และแป้งมันสำปะหลัง กับผู้ซื้อต่างประเทศ จาก เกาหลี ตุรกี จีน และญี่ปุ่น ผู้ประกอบการโรงแป้ง 4 บริษัท กับกลุ่มเกษตรกรมันสำปะหลังแปลงใหญ่ 21 กลุ่ม เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลังให้เกษตรกร รับซื้อในราคานำตลาด โดยมี นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายธีระ เอื้ออภิธร นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ร่วมด้วย
