พาณิชย์นำ GIT แนะเทคนิคดูทองจริง-ทองปลอมย่านเยาวราช

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า “ในวันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้นำเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ( GIT ) และ สำนักงานเลขาธิการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านทองย่านเยาวราช เพื่อตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานทองคำ มาตรฐานเครื่องชั่งทองคำ รวมถึงฉลากสินค้าที่ถูกต้อง การติดราคาทองคำ ทองรูปพรรณ และค่ากำเหน็จ

นายนภินทร กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแตะบาทละกว่า 37,500 บาท จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มิจฉาชีพ รวมทั้งร้านค้าออนไลน์บางแห่ง ใช้โอกาสนี้หลอกขาย “ทองคำปลอม” ในรูปแบบต่างๆ อาทิ ทองเกรด A, ทองไมครอน, ทองโคลนนิ่ง, ทองยัดไส้ รวมถึงทองรูปพรรณ มีการนำเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อให้ทองคำปลอมมีความใกล้เคียงกับทองคำจริงมากที่สุด และไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงการใช้เครื่องมือตรวจสอบที่มีขนาดเล็ก กระทบร้านค้าที่รับซื้อทองคำ โรงรับจำนำ รวมถึงทำให้ผู้บริโภคเกิดความหวั่นวิตกในการเลือกซื้อทองคำ โดยเฉพาะทองคำแท่งว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ที่ผ่านมามีการร้องเรียนการหลอกซื้อขาย“ทองคำปลอม” ทั้ง ทองคำแท่ง และ ทองรูปพรรณ ในปี 2566 พุ่งสูงกว่า 1,600 คดี

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อทองคำ จึงได้มอบหมาย ให้ GIT ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่า และทำการตรวจเช็คค่าความบริสุทธิ์ของทองคำ ทั้ง ทองคำแท่ง และ ทองรูปพรรณ เร่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอย่างเร่งด่วน ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบและออกใบรับรองคุณภาพจาก GIT ให้แก่ผู้ที่สนใจ ก่อนซื้อ – ขาย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับความเชื่อมั่น อย่างสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ย่านการค้าทองเยาวราช เพื่อตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานทองคำ มาตรฐานเครื่องชั่งทองคำ รวมถึงฉลากสินค้าที่ถูกต้อง และ การติดราคาทองคำ ทองรูปพรรณ และค่ากำเหน็จอย่างชัดเจน โดยลงพื้นที่เยี่ยมร้านค้าทอง ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ ในย่านเยาวราช เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน

ด้าน นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT  กล่าวว่า คนไทยจะซื้อทองเก็บสะสมเป็นสินทรัพย์ โดยเลือกซื้อทองคำในรูปแบบของ ทองรูปพรรณ และ ทองคำแท่ง กับร้านทองที่น่าเชื่อถือ แต่ก่อนเลือกซื้อทองคำต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะในปัจจุบัน มิจฉาชีพ มีวิธีการต่างๆ มากมายที่ใช้ในการหลอกลวงผู้บริโภค รวมถึงร้านค้าที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อให้พิจารณา และสังเกตที่ทองคำ หรือทองรูปพรรณ ว่า มีตราสัญลักษณ์ร้านค้าที่เลือกซื้อหรือไม่ มีการประทับตัวเลขที่บอกมาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำที่ตอกไว้หรือไม่ เช่น Gold 965 และยังต้องสังเกตรายละเอียดต่างๆ รายรอบเพิ่มเติมด้วย อาทิ น้ำหนัก ขนาด และ รอยต่อต่างๆ

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบทองคำปลอมเหล่านี้ หากเป็นร้านขายทองคำ จะใช้การตะไบเข้าไปในเนื้อทองคำ เพื่อเช็คดูว่ามีการสอดไส้หรือไม่ หากเป็นทองแท่งอาจจะมีการนำมาหุ้มหนาๆ การตะไบก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งวิธีการนี้ ประชาชน และผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงห้องปฏิบัติการตรวจสอบขนาดเล็กที่อาจไม่มารถตรวจสอบได้ อีกทั้งปัจจุบันได้มีการนำธาตุใหม่ๆ เข้ามาผสมกับทองคำ เช่น ธาตุรีเนียม และทังสเตน ไม่สามารถใช้เทคนิคพื้นฐาน เช่น หยดกรด การเผาไฟ หรือใช้เครื่องมือ X-Ray ขนาดเล็กตรวจวิเคราะห์ได้ หากต้องการผลการตรวจสอบที่แน่ชัด แนะนำให้นำมาตรวจสอบกับ GIT เนื่องจากเป็นห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ที่มีเครื่องมือขั้นสูง สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจนว่าเป็นทองคำแท้หรือทองคำปลอม ตรวจด้วยคลื่นอัลตราโซนิค ซึ่งไม่ทำลายชิ้นงาน

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อทองคำทั้งในด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรหรือมีการกักตุนสินค้า หรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีใช้เครื่องชั่งโดยไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมการค้าภายในมีโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับกรณีมีการดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งตรงวัดมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 280,000 บาท”

Message us