11 สิงหาคม 2567 นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังบูรพา กล่าวว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี หลังจากกนั้นเกิดข้อถกเถียงทางสังคม นำเสนอแง่มุมทางกฎหมายซึ่งมีทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ถือเป็นสิทธิของแต่ละคน ศาลได้พิจารณาโดยยึดรัฐธรรมนูญและหลักกฎหมาย
ส่วนผู้ที่มอง พรรคการเมืองไม่ควรถูกยุบง่ายเกินไป หากเป็นการทำผิดควรลงโทษเฉพาะบุคคล ข้อถกเถียงต่างๆหากอยู่บนหลักพื้นฐานทางวิชาการ ไม่นำอคติมาแฝง ถือเป็นเรื่องดีต่อการเมือง การพัฒนาประชาธิปไตย จากข้อคิดเห็นที่หลากหลายแง่มุม จะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ คงต้องให้ผู้ที่มีอำนาจ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปดำเนินการ แต่ไม่ว่า จะเป็นการแก้ไขในเรื่องนี้หรือเรื่องอื่นๆ สิ่งสำคัญต้องเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน หารือกันอย่างตกผลึก นำมาเป็นข้อสรุปเพื่อนำมาปรับปรุงกฎหมาย ให้เกิดการยอมรับจากทุกฝ่าย ทั้งนี้ขอให้กำลังใจพรรคก้าวไกลเดิม หรือพรรคประชาชนในวันนี้ สำหรับการดำเนินกิจกรรมการเมืองต่อไป
นายสุระ ยังกล่าวถึงการคาดการณ์ว่า จะมีการปรับครม. หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยคดีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาวันที่ 14ส.ค.นั้น การปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯ การทำงานร่วมกันมา รัฐมนตรีคนไหนทำงานอย่างไร จะปรับเล็ก ปรับใหญ่ ปรับเอารัฐมนตรีจากบางพรรคออกไป ดึงพรรคใหม่เข้ามาร่วมรัฐบาล ปรับสลับตำแหน่ง หรือปรับบางคนออกไปเลย ไม่มีใครรู้ ต้องให้นายกฯเป็นผู้พิจารณา แต่เชื่อว่า ในการปรับครม.ทุกครั้ง นายกฯคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ เป็นการปรับเพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว โดยมองถึงจุดประสงค์ในการเร่งแก้ไขปัญหาด้านต่างๆของประชาชนเป็นหลัก
