
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านหล่อพระพุทธรูปมาช้านาน โดยเฉพาะพระพุทธชินราชจำลอง ที่มีผู้นิยมบูชาไปพระพุทธรูปประจำบ้าน โดยโรงหล่อพระจ่าทวี หรือโรงหล่อพระบูรณะไทย ซึ่งเป็นโรงหล่อพระพุทธรูป ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ของจังหวัดพิษณุโลก ทำการหล่อและผลิตพระพุทธรูปบูชา ขนาดหน้าตักต่างๆ จำหน่ายทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงนี้กระแสสายมู ฟรีเว่อร์มาก ส่งผลให้ทางโรงหล่อพระจ่าทวี เร่งผลิต โดยเฉพาะในปีนี้ที่ครบรอบ 666 ปี ของพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก และพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในโลก

นายธรรมสถิตย์ บูรณเขตต์ บุตรชายของลุงทวี เปิดเผยว่า ตนเอง ได้สืบสานการหล่อพระจากพ่อ เนื่องจากปีนี้คุณพ่ออายุ 91 ปี แล้ว โดยทางโรงหล่อพระจ่าทวี นั้นถือว่าเป็นโรงหล่อพระพุทธชินราชจำลองที่เก่าแก่ และมีเอกลักษณ์ของการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง จนขึ้นชื่อ ในแต่ละปีนี้จำหน่ายพระพุทธชินราชจำลอง ที่มีหน้าตัก 5 นิ้วขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 200 องค์ แต่ละองค์ก็มีราคาตั้งแต่ 10,000 -150,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าตักพระพุทธรูป

ทั้งนี้ ล่าสุดทางโรงหล่อพระจ่าทวี ได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พัฒนานวัตกรรมการเคลือบผิวในระดับอะตอมหรือในระดับโมเลกุล ด้วยทองคำบริสุทธิ์ 99.9 % ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่า และความงดงามไปอีกขั้นด้วย เทคโนโลยี PVD Coating (Physical Vapor Deposition) ทนต่อสารเคมี เบื้องต้นได้ผลิตในแบบจำนวนจำกัด เพียง 19 องค์ เท่านั้น

นอกจากยังพระพุทธรูปลงรักแบบ 3 กษัตริย์ ติดกับเนื้อผิวขององค์พระ ซึ่งถือว่าทำอย่างมาก เพื่อประชาชน สามารถนำไปบูชาได้ ซึ่งในปีนี้พบว่ามีประชาชนสายมู ที่ศรัทธาพระพุทธชินราช สั่งจองไปบูชาถึงประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ลาว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
ข่าว/ภาพ : นายชินวัฒน์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลก
