พรรคประชาชาติเปิด 4 ชุดนโยบายปลุกจังหวัดชายแดนใต้เลือกทั้งคนทั้งพรรค

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย แกนนำพรรคลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไม่ขาดหาย ทั้งไปร่วมงานบุญ งานมงคลต่างๆ, พบปะแกนนำ ผู้นำศาสนา ครู อุสตาส และประชาชน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมรับฟังปัญหาของพี่น้องทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ นำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

ทั้งนี้ จุดแรก พ.ต.อ.ทวี นำคณะพรรคประชาชาติไปที่โรงยาง อ.เมือง จ.นราธิวาส ร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว พญ.มารีนา บินระหีม และ นพ.ราชัย ราชมุกดา พร้อมให้กำลังใจและกล่าวชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน จุดที่สอง เดินทางไปที่ อ.สุไหงปาดี พบปะผู้นำและแกนนำในพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในการแก้ปัญหาตลอดจนแนวทางพัฒนาพื้นที่สุไหงปาดีในอนาคต ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และมิติอื่นๆ ตามความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืน

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ยังได้นำคณะพรรคประชาชาติเข้ารับฟังความคิดเห็นจากผู้นำศาสนา และครูอุสตาซ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ที่ มูลนิธิมะทา ถนนสุขยางค์ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธี โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวตอนหนึ่งว่า การเมืองต้องเลือกด้วยความเข้าใจ ถ้าเราไม่เข้าใจการเมือง การเมืองก็จะเป็นพลาสติก ยืนยันว่า พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์

“ทำไมเรามีพรรคประชาชาติ เพราะเป็นพรรคของพวกเรา เพราะอะไรเราต้องเลือกพรรคของเรา ก็เพราะจุดยืนและอุดมการณ์ เราต้องปกป้องศาสนา วัฒนธรรม และรักษาวัฒนธรรม ต้องขอบคุณเยาวชนอีกครั้งที่รวมใจกันใส่ชุดมลายูจนคนทั้งโลกตกใจ เราไม่ลืมสมบัติของบรรพบุรุษ พรรคประชาชาติจะสนับสนุนและรักษาสิ่งนี้ พรรคประชาชาติจะปกป้องความเป็นธรรมให้ประชาชน และพรรคประชาชาติต้องรักษาอามานะฮ์ หน้าที่ ความรับผิดชอบ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การเลือกตั้งที่มาเลเซีย พรรคประชาชาติส่งคณะไปติดตาม พบว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของคนมาเลเซีย นายอันวาร์ อิบราฮิม ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายทันที 10 ข้อ เน้นมิติของการให้อนาคตเด็กและอนาคตประชาชนสูงที่สุด

1.เขาจะช่วยเหลือเงินครัวเรือน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน 2.มีโครงการให้อาหารฟรีให้กับเด็กนักเรียน ให้ฟรีอาหารเช้าและกลางวัน 3.เหมือนนโยบายพรรคประชาชาติ คือเขาจะทำบัตรนักศึกษา และเยาวชน ให้มีบัตรสวัสดิการเยาวชน 4.ทุนการศึกษาสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยมาเลเซีย ผู้มีรายได้ต่ำ คือ 4,850 ริงกิต ถือว่ารายได้ต่ำ ก็จะให้ทุน 5. ปราบคอร์รัปชั่น

6.เปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย 7.เบี้ยผู้สูงอายุ เรื่องนี้เหมือนนโยบายพรรคประชาชาติ เราเสนอนโยบายผู้สูงอายุ 60 ปีควรมีบำนาญ 3,000 บาท 8.ให้เยาวชนได้ลงทุนในอาชีพเกษตรและปศุสัตว์ 9.คล้ายๆ นโยบายพรรคประชาชาติ คือสนับสนุนเงินให้แม่บ้าน หรือให้เงินกับผู้เป็นแม่ที่ทำงานที่บ้าน สำหรับผู้มีรายได้ต่ำ 10.แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี ต้องมีตัวแทนจากรัฐซาบาฮ์ ซาราวัก เสนอ 4 ชุดนโยบาย กระจายอำนาจ – สวัสดิการถ้วนหน้า

“นโยบายมาเลเซียให้ความสำคัญกับทุกคน วันนี้พวกเราเป็นเจ้าของพรรคประชาชาติ พรรคเราเป็นพรรคของการศึกษา พรรคได้จัดทำชุดนโยบาย เราจะมี 4 ชุดใหญ่ๆ คือ 1.จะยกเลิกรัฐบาลรวมศูนย์ ส่งให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง กระจายงบประมาณ กระจายอำนาจ จะทำให้ ชัยชนะอยู่ที่ครอบครัว หรือสันติสุขอยู่ที่ครอบครัว 2.ประเทศเราเดินทางมาถึงความยากจนสูงสุด เราจะชี้ให้เห็นว่าต้องมีการกระจายการถือครองที่ดิน ออกโฉนดที่ดินให้หมด ถ้าโครงสร้างเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมีป่า เอาที่ดินส่งให้ประชาชนให้หมด 3.จะทำให้รัฐเล็กลง ทำให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น 4.เราต้องเดินทางไปสู่รัฐสวัสดิการให้ได้ ทำให้คนมีสิทธิเสมอกัน ทุกท่านมีหน้าที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างคนให้มีคุณภาพ พรรคประชาชาติเป็นพรรคของพวกเราที่เรามีโอกาสเป็นเจ้าของพรรคการเมือง พรรคเกิดในจังหวัดภาคใต้ และเป็นของพวกเราทุกคน ทุกศาสนา เป็นสถาบันของทุกคน นี่คือบ้านของทุกท่าน”พ.ต.อ.ทวีกล่าว

อย่างไรก็ตาม วันนี้มีคนพยายามไปบอกประชาชนว่า ให้เลือกพรรคประชาชาติ แต่ ส.ส.เขตให้เลือกพรรคอื่นได้ แบบนี้เป็นวีธีทำลายพรรคประชาชาติ ประชาชนกำลังถูกหลอก เพราะเราเป็นเจ้าของพรรคประชาชาติ ต้องเลือกส.ส. ถ้าทำได้ต้องเลือกทั้งพรรคและคน

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ไปเพื่อพบกลุ่มภาคประชาสังคม นำทีมโดย นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้สะท้อนประเด็นปัญหาและแนวทางการพัฒนาจังหวัดยะลา ในมิติของการสร้างโอกาสให้ผู้พิการแต่ละชมรม ที่มีอยู่หนึ่งตำบลหนึ่งชมรม, มิติของปัญหาที่ดินทำกิน การสร้างอาชีพ การผลักดันการท่องเทียววิถีชุมชน และมีการเรียกร้องให้ จ.ยะลา มีมหาวิทยาลัยเกษตร เพราะยะลาเป็นเมืองเกษตร รวมถึงในมิติของสุขภาวะอนามัย

นอกจากนั้น ยังมีการเสนอปัญหาการขาดโอกาสของ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน) และแนวทางการพัฒนาศักยภาพ อสม. รวมทั้งยังมีการเสนอในมิติของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ GDP ของยะลาต่ำสุดหลังจากราคายางตก และเจอปัญหาโรคใบร่วง แต่รัฐบาลไม่เคยพูดถึงเลย

พ.ต.อ.ทวี ย้ำว่า พูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำให้ได้ด้วย หลายเรื่องที่เสนอสามารถทำได้จริง และ จ.ยะลา มีงบประมาณลงมามากมากเป็นอันดับที่ 4 เพราะยะลามีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีค่ายอะไรอีกหลายค่าย แต่งบประมาณไม่ได้มาถึงภาคประชาชนเท่าที่ควร

Message us