นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมี นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวรายงาน และมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะผู้บริหาร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ บริเวณหน้าสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย กระทรวง พม.
นายวราวุธ กล่าวว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยนั้น ไม่ใช่เป็นศูนย์รับเลี้ยงเด็ก แต่เป็นศูนย์พัฒนาการเจริญเติบโตของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ จะเป็นหัวใจสำคัญให้กับคนรุ่นใหม่ในการที่จะมีครอบครัว รวมถึงการมีลูก และปัจจัยสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่จะมีลูกนั้น คือต้องมีคนช่วยเลี้ยง ถ้าหากว่ามีลูก แล้วตนเองต้องมาทำงาน ไม่มีใครช่วยเลี้ยงดูลูก หลายครั้งที่จะต้องส่งกลับไปให้คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัดดูแล บางครั้งจะก่อให้เกิดปัญหา การที่กระทรวง พม. ได้เปิดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในวันนี้ จะเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลายหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะมีศูนย์เช่นนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและช่วยพัฒนาคุณภาพของเด็กแรกเกิดจนถึงไม่เกิน 6 ขวบของประเทศไทยให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ทราบว่ามีบางกระทรวง อาทิ กระทรวงสาธารณสุขก็มีเช่นกัน จึงอยากจะขอเชิญชวนให้อีกหลายหน่วยงานของภาครัฐ มีสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเช่นนี้ ซึ่งกรมกิจการเด็กและเยาวชน พร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องคุณครูผู้สอนเด็กปฐมวัย ทั้งในส่วนของเด็กเล็กและเด็กโตขึ้นมา เป็นตัวอย่างให้อีกหลายกระทรวงหลายหน่วยงาน รวมถึงภาคเอกชนมีสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในสถานที่ของตนเอง เพื่อเป็นการสนับสนุนคนรุ่นใหม่และครอบครัวต่อไป
ทั้งนี้ ทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน รายงานให้ทราบถึงสถานการณ์ประชากรปัจจุบันว่ามีแนวโน้มลดลง ด้วยอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างเนื่องในแต่ละปี โดยข้อมูลจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่ปี 2562 เด็กเกิด 618,192 คน ปี 2564 เด็กเกิด 544,570 คน และปี 2565 เด็กเกิด 502,107 คน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงได้จัดทำนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร มีการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจกรมกิจการเด็กและเยาวชน คือ ข้อเสนอเชิงนโยบายการเพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน : เด็กน้อย แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ โดยมีมาตรการสำคัญเร่งด่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย คือ มาตรการที่ระบุว่า การมีศูนย์เด็กเล็กใกล้บ้าน มีมาตรฐาน รับเด็กอายุน้อยลง มีความยืดหยุ่น ชุมชนช่วยจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้จัดตั้งสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย กระทรวง พม. ที่ปลอดภัย มีคุณภาพ ส่งเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมตามช่วงวัย สามารถรับมือกับวิกฤติประชากรจากการเปลี่ยนผ่านของกระบวนการประชากรที่เกิดน้อยลง พร้อมทั้งเป็นเป็นสวัสดิการให้บุคลากรกระทรวง พม. และเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานอื่น ๆ มาเรียนรู้และนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมตามบริบท
นายวราวุธ กล่าวว่า ในรายงานระบุ เด็กปฐมวัยเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของประเทศ เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต หากพัฒนาการด้านร่างกายและสมองของเด็กได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตามช่วงวัย ได้รับความรัก ความเข้าใจ และเอาใจใส่เด็กวัยนี้เป็นพิเศษจะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ และจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปในอนาคต สำหรับอาคารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย กระทรวง พม. เดิมเป็นศูนย์พัฒนาเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ดำเนินการตั้งแต่ 2558 จนถึง 2567 โดยคิดค่าบริการเลี้ยงดูเด็ก 700 บาทต่อเดือน มีผู้เลี้ยงดูเด็ก 6 คน และผู้ประกอบอาหาร 1 คน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มอบภารกิจของศูนย์พัฒนาเด็กกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้อยู่ในการกำกับดูแลของกรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. โดยดำเนินการปรับปรุงอาคารทั้งภายในและภายนอกเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมกับการดูแลเด็กและอาคารมีพื้นที่ใช้สอย 124.92 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องทำงาน ห้องเก็บของและห้องสำหรับเด็ก จำนวน 2 ห้อง สำหรับรองรับเด็กอายุตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 6 ปี จำนวน 30 คน ซึ่งปัจจุบันมีเด็กรับบริการ 12 คน ผู้เลี้ยงดูเด็ก 5 คน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการศึกษาปฐมวัย ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มีการเรียนการสอนด้วยการใช้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคป และการเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี เพื่อวางรากฐาน พัฒนาอารมณ์ จิตใจ รวมถึงการเรียนรู้สังคม สิ่งแวดล้อมรอบข้าง ส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักพึ่งพาตนเองซึ่งเป็นทักษะสำคัญต่อการพัฒนาของเด็กให้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จได้ด้วยตัวเอง
