เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ มีการจัดประชุมใหญ่พรรค เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังจากที่มีกรรมการบริหารพรรคหลายคนยื่นลาออกไปก่อนหน้า รวมถึงกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรร และพวกรวม 6 คน ที่ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วยร.อ.ธรรมนัส ลาออกจาก เลขาธิการพรรค นายไผ่ ลิกค์ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นายอรรถกร ศิริลัทธิยากร และ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา
สำหรับการประชุมในวันนี้จะมีการตั้ง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แทนร.อ.ธรรมนัส และจำนวนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะลดลงจากเดิมที่มี 19 คน พร้อมให้จับตาว่า นายวัน อยู่บำรุง จะมีรายชื่ออยู่ในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่หรือไม่ ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคยังคงเป็นชุดเดิม และมีการปรับตำแหน่งแทนกลุ่มที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ได้มีแกนนำพรรคได้ทยอยเดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ขณะที่บรรยากาศในช่วงเช้าสมาชิกพรรคจากจังหวัดต่างๆ ได้ทยอยเดินทางมายังที่ทำการเพื่อรอการประชุมซึ่งจะเริ่มในเวลา 10.30 น.
สำหรับรายชื่อกรรมการบริหารชุดใหม่ ประกอบด้วย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค
รองหัวหน้าพรรคประกอบด้วย
นายสันติ พร้อมพัฒน์
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง
นายอุตตม สาวนายน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์
นายชัยมงคล ไชยรบ
นายอภิชัย เตชะอุบล
กรรมการบริหารพรรค จำนวน 12 คน
นายอนันต์ ผลอำนวย
นายทวี สุระบาล
นายสุธรรม จริตงาม
นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์
นางสาวกาญจนา จังหวะ
นายคอซีย์ มามุ
นายอัครวัฒน์ อัศวเหม
นายยงยุทธ สุวรรณบุตร
พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์
หม่อมหลวง กรกสิวัฒน์ เกษมศรี
นายวัน อยู่บำรุง
พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค
นายสมโภชน์ แพงแก้ว นายทะเบียนพรรค
คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 5 คน
นายสันติ พร้อมพัฒน์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง
พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์
พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่า “ขอบคุณที่ทุกท่านที่มาร่วมประชุมในวันนี้ และเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จากวันนี้ไป พรรคพลังประชารัฐจะไม่มีวันแตกแยกอีกแล้ว พรรคจะดำเนินการในแนวทางใหม่โดยมอบหมายให้ รองหัวหน้าพรรค ควบคุมพื้นที่ และดูแลสส. และมอบหมายให้เลขาธิการพรรค เป็นฝ่ายสนับสนุน พรรคจะยึดมั่นในสถาบัน และปกป้องไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะทำเศรษฐกิจที่ทันสมัย ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี และความเป็นอยู่ที่สดใส เราจะร่วมกันทำให้พรรคเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ดีมีสุข”
